Blog

กรมสรรพากร

หมวดหมู่ทั้งหมด
กรมสรรพากร

Disclosure Form แบบรายงานประจำปีสำหรับกิจการที่มีความสัมพันธ์กัน

ในประเทศไทย Disclosure Form หรือแบบรายงานประจำปีสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีความสัมพันธ์กันตามมาตรา 71 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นแบบฟอร์มที่ใช้เพื่อ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายการธุรกรรมระหว่างกัน ของบริษัทในเครือหรือบริษัทที่มีความสัมพันธ์กันตามที่กฎหมายกำหนด วัตถุประสงค์หลัก แบบฟอร์มนี้ถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลักในการป้องกันการกำหนดราคาโอน (Transfer Pricing) ที่ไม่เป็นไปตามราคาตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่การหลีกเลี่ยงภาษี กรมสรรพากรใช้แบบฟอร์มนี้เพื่อตรวจสอบว่า: บริษัทมีการกำหนดราคาซื้อขายสินค้าระหว่างกันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ (ราคาตามหลักการที่พึงกระทำ – Arm’s Length Principle) มีการถ่ายโอนกำไรไปยังบริษัทในเครือที่มีอัตราภาษีต่ำกว่าหรือไม่ บริษัทที่มีความสัมพันธ์กันตามมาตรา

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

สรรพากรรู้รายได้เรา รู้ว่าเราหนีภาษี

สรรพากรรู้รายได้เรา รู้ว่าเราหนีภาษี ได้หลายวิธีในปัจจุบัน โดยกรมสรรพากรมีวิธีการตรวจสอบข้อมูลรายได้ของผู้ประกอบการที่หลากหลายและทันสมัยขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่ผู้คนแสดงตัวตนและธุรกรรมทางการเงินผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งทำให้การตรวจสอบทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่าในอดีตมาก ทำไมสรรพากรรู้รายได้จากการ Live สด และการโชว์รวยออกสื่อ เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics): กรมสรรพากรใช้โปรแกรมและเทคโนโลยีขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง ไม่ได้พึ่งพาแค่ข้อมูลที่ยื่นเสียภาษีเท่านั้น ระบบจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เพื่อสร้างโปรไฟล์ของผู้เสียภาษีแต่ละคน เช่น ข้อมูลการใช้จ่ายบัตรเครดิต การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์หรู การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่มีมูลค่าสูง การแสดงความมั่งคั่งออกสื่อถือเป็นหนึ่งใน “ธงแดง” ที่ระบบจะจับตามองเป็นพิเศษ

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

ธุรกิจขนส่งโดยไม่มีรถตัวเอง ถือเป็นธุรกิจขนส่งได้

ธุรกิจขนส่งโดยไม่มีรถตัวเอง ถือเป็นธุรกิจขนส่งได้ กรณีบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ประกอบธุรกิจขนส่ง แต่ไม่มีรถขนส่งเป็นของตัวเอง และไม่มีใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ยังถือเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามหลักประมวลรัษฎากรได้ และมีหน้าที่ทางภาษีที่ต้องปฏิบัติตาม ดังนี้ การเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามหลักประมวลรัษฎากร คำจำกัดความ: กรมสรรพากรพิจารณาการเป็น “ผู้ประกอบการขนส่ง” ตามลักษณะการให้บริการ ไม่ใช่ตามการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ (รถขนส่ง) หรือการมีใบอนุญาตประกอบการขนส่ง หลักการ: หากบริษัทของคุณรับงานขนส่งและทำสัญญากับลูกค้าโดยตรง ถือว่าคุณเป็น ผู้ให้บริการขนส่ง และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย แม้ว่าจะใช้รถที่เช่ามาหรือยืมมาก็ตาม การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

การตัดมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ ของทรัพย์สินที่สูญหายหรือชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้

การตัดมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินที่สูญหายหรือชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ ถือเป็นการรับรู้ “ผลขาดทุน” ของกิจการ ซึ่งสามารถนำไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีและให้แน่ใจว่าการตัดจำหน่ายนั้นเกิดขึ้นจริงและมีเหตุผลอันสมควร หลักการทั่วไปตามกฎหมายภาษี หลักการสำคัญอยู่ที่มาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งระบุว่า “รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เว้นแต่รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณะประโยชน์ที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี” ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ แต่โดยนัยแล้ว หากรายจ่ายนั้นไม่ได้มีลักษณะตามมาตรา 65 ตรี และเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือกิจการ

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

ขั้นตอนการทำลายสินค้า กรณีเป็นสินค้าของเสีย สินค้าเสื่อมสภาพ และสินค้าล้าสมัย

สินค้าของเสีย สินค้าเสื่อมสภาพ หรือสินค้าล้าสมัย ถือเป็นทรัพย์สินของกิจการที่ต้องถูกตัดจำหน่ายออกจากบัญชี และจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร เพื่อให้สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มหากมีการนำไปจำหน่ายหรือบริจาคผิดวัตถุประสงค์ ขั้นตอนโดยละเอียดที่สรรพากรยอมรับได้ มีดังนี้ค่ะ หลักการสำคัญ การทำลายสินค้าที่สรรพากรยอมรับได้ มีหลักการสำคัญคือ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่โปร่งใส ชัดเจน และสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการทำลายจริง โดยมีเจตนาเพื่อลดความเสียหายของธุรกิจ และไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี ขั้นตอนการทำลายสินค้าที่ถูกต้องตามหลักสรรพากร รายละเอียดสินค้าที่จะทำลายให้เป็นไปตามเงื่อนไขสรรพากร การทำลายสินค้าเป็นกระบวนการสำคัญที่ธุรกิจต้องให้ความใส่ใจ ไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดการสต็อก แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับหลักเกณฑ์ทางภาษีที่กรมสรรพากรกำหนด หากดำเนินการไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้ไม่สามารถนำมูลค่าสินค้าที่ทำลายไปหักเป็นค่าใช้จ่าย หรืออาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มโดยไม่จำเป็น

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

11 รายจ่ายที่มักจะถูกบวกกลับเป็น “รายได้” ของกิจการ สรรพากรไม่ยอมให้เป็นค่าใช้จ่าย!

ในทางบัญชี กิจการจะบันทึกรายจ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามหลักการบัญชี แต่สำหรับ “กฎหมายภาษี” กรมสรรพากรมีหลักเกณฑ์เฉพาะว่ารายจ่ายใดบ้างที่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้ ความหมายของ “รายจ่ายบวกกลับเป็นรายได้ของกิจการ” (รายจ่ายต้องห้าม) “รายจ่ายบวกกลับเป็นรายได้ของกิจการ” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “รายจ่ายต้องห้าม” (Non-deductible Expenses / Disallowed Expenses) หมายถึง รายจ่ายที่กิจการได้บันทึกไว้ในบัญชีเป็น “ค่าใช้จ่าย” เพื่อคำนวณกำไรสุทธิตามหลักการบัญชีแล้ว แต่ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร (มาตรา 65 ตรี) กรมสรรพากร

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

ค่าปรับทางภาษีแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง!?

ข้อควรทราบ: เงินเพิ่ม: เป็นเบี้ยปรับที่คำนวณจากจำนวนภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม หรือชำระภาษีล่าช้า โดยคิดเป็นอัตราร้อยละต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระ เบี้ยปรับ: เป็นบทลงโทษที่กำหนดเป็นอัตราร้อยละของจำนวนภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม หรือตามจำนวนภาษีที่แสดงไว้ในแบบ ค่าปรับอาญา: เป็นโทษปรับตามกฎหมายอาญา ที่กำหนดเป็นจำนวนเงิน โดยไม่มีการคำนวณจากยอดภาษี แต่ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของความผิด และอาจมีโทษจำคุกร่วมด้วย ประเภทค่าปรับทางภาษีที่พบบ่อยของกรมสรรพากร 1. ค่าปรับในกรณี “ยื่นแบบฯ เกินกำหนดเวลา” (ล่าช้า) เงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90/91): ยื่นล่าช้า

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

รวมประเด็นปัญหา เงินเข้าบัญชีธนาคารที่ถูกนำส่งข้อมูลกรมสรรพากร

รายละเอียดของเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ถูกนำส่งข้อมูลแก่สรรพากร ในประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์มีหน้าที่ต้องนำส่งข้อมูลเกี่ยวกับรายการเงินฝากเข้าบัญชีของบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลให้กับกรมสรรพากร เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลภาษีและป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี การนำส่งข้อมูลนี้มีผลบังคับใช้ตาม มาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยให้สรรพากรสามารถตรวจสอบรายได้ของผู้เสียภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อมูลอะไรบ้างที่ธนาคารนำส่งให้สรรพากร? ข้อมูลที่ธนาคารนำส่งจะจำแนกตามประเภทของบัญชีและจำนวนครั้ง/ยอดเงินที่เข้าบัญชี ดังนี้: 1.สำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลทั่วไป: จำนวนครั้ง: 3,000 ครั้งขึ้นไป (ไม่จำกัดยอดรวม) ยอดรวม: 400 ครั้งขึ้นไป และมียอดรวม 2,000,000 บาทขึ้นไป

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

ระยะเวลาการเก็บรักษาเอกสาร ทางบัญชีและภาษี

การเก็บรักษาเอกสารทางบัญชีและภาษีเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการและสำนักงานบัญชีต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้เมื่อถูกเรียก หรือเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษี การไม่ปฏิบัติตามอาจมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ระยะเวลาการเก็บรักษาเอกสารทางบัญชีและภาษีตามหลักกฎหมาย โดยทั่วไปแล้ว กฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาเอกสารทางบัญชีและภาษีเป็นระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 5 ปี และสามารถขยายได้ถึง 7 ปี หากมีกรณีที่กรมสรรพากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้องขอ 1. ตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 มาตรา 13: “ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ ณ สถานที่ทำการ หรือสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำ หรือสถานที่อื่นที่อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดไว้

อ่านเพิ่มเติม »
กรมสรรพากร

5 กลโกงภาษี ที่ทำให้กิจการโดนตรวจสอบภาษีย้อนหลัง

1.ขายใบกำกับภาษี การขายใบกำกับภาษีปลอม หรือการขายใบกำกับภาษีเปล่า/ที่ไม่มีการซื้อขายสินค้าและบริการจริง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีบทลงโทษที่รุนแรงมากในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการฉ้อโกงภาษีของรัฐและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม การขายใบกำกับภาษีที่ผิดกฎหมาย คืออะไร? การขายใบกำกับภาษีที่ผิดกฎหมาย หลักๆ แล้วคือการที่บุคคลหรือนิติบุคคล ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริง หรือมีการซื้อขายจริงแต่ ระบุข้อมูลอันเป็นเท็จ บนใบกำกับภาษี เพื่อให้ผู้ซื้อใบกำกับภาษีนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิดกฎหมายภาษีอากร รูปแบบการกระทำผิด: การออกใบกำกับภาษีปลอม: เป็นการสร้างใบกำกับภาษีขึ้นมาเอง โดยไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือไม่ได้มีการประกอบกิจการจริงตามที่ระบุ การออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายจริง (ใบกำกับภาษีเปล่า): เป็นการที่ผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT

อ่านเพิ่มเติม »