“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ Shopee Lazada Tiktok มอบความไว้วางใจให้ทีมงานแอคโปรแท็ค (AccProTax) ดูแลเปิดบริษัทใหม่ และช่วยวางแผนภาษี ที่ปรึกษาด้านบัญชีและภาษีอย่างมืออาชีพ
มารับคำปรึกษาที่สำนักงานด้วยตัวเอง ขอบพระคุณคุณลูกค้ามากค่ะ”
ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์บน Shopee และ TikTok ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่น่าสนใจทั้งในปัจจุบันและอนาคต อย่างไร?
โดยได้รับอิทธิพลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น
แนวโน้มในปัจจุบัน:
การเติบโตของ E-commerce: ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้การเติบโตจะเป็นตัวเลขหลักเดียวในปี 2025 หลังจากเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท
Shopee ยังคงครองตลาด: Shopee ยังคงเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ได้จำกัดแค่วัยรุ่น ด้วยจุดเด่นด้าน UI ที่ใช้งานง่าย มีแคมเปญส่วนลดและโปรโมชั่นมากมาย รวมถึงระบบแชทที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถพูดคุยกับผู้ขายได้โดยตรง
TikTok Shop มาแรงแซงโค้ง: TikTok Shop เติบโตอย่างก้าวกระโดดและขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดอีคอมเมิร์ซไทยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์วิดีโอ จุดแข็งของ TikTok Shop คือการเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สามารถทำการซื้อขายได้แบบครบวงจร (Shoppertainment) ผ่านไลฟ์สดและการรีวิวสินค้าจากอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งมักจะมีส่วนลดที่น่าสนใจ
Social Commerce เฟื่องฟู: การขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Commerce) โดยเฉพาะ TikTok, Facebook Live, และ Instagram Live ได้รับความนิยมอย่างมาก ผู้บริโภคจำนวนมากนิยมรับชมไลฟ์สดเพื่อซื้อสินค้า เนื่องจากได้เห็นสินค้าจริง สอบถามข้อมูลได้ทันที และมักได้รับส่วนลดพิเศษ
พฤติกรรม Omnichannel: ผู้ประกอบการหลายรายไม่ได้ยึดติดอยู่กับแพลตฟอร์มเดียว แต่หันมาใช้กลยุทธ์ Omnichannel โดยการลงสินค้าหลายแพลตฟอร์มควบคู่กันไป ทั้ง Shopee, Lazada, TikTok Shop, และโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและสร้างยอดขายสูงสุด
แนวโน้มในอนาคต:
การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น: การแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะระหว่าง Shopee และ TikTok Shop ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามดึงดูดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ แคมเปญส่วนลด และการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น YouTube ที่จับมือกับ Shopee เพื่อแข่งกับ TikTok
บทบาทของ Live Commerce ที่มากขึ้น: Live Commerce จะยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างยอดขายและ engagement ผู้บริโภคจะยิ่งใช้เวลาในการรับชมไลฟ์สดมากขึ้น แพลตฟอร์มต่างๆ จะแข่งขันกันเพิ่มชั่วโมงไลฟ์ และพัฒนาฟีเจอร์ที่สนับสนุนการไลฟ์สดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การใช้ AI ในธุรกิจ E-commerce: AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจ E-commerce มากขึ้น เช่น การช่วยสร้างคอนเทนต์วิดีโอและภาพ, การทำ Chatbot ตอบคำถามลูกค้า, การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงใจ, และแม้กระทั่งการใช้ AI Influencer ในการไลฟ์สดขายสินค้า
Affiliate Marketing: แนวโน้มการใช้ Affiliate Marketing จะเพิ่มมากขึ้น แบรนด์และผู้ขายจะหันมาใช้ตัวแทนช่วยขายและโปรโมทสินค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าและลดต้นทุนการตลาด
Data Driven Business: การใช้ข้อมูลผู้บริโภค (Customer Data Platform – CDP) จะเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ประกอบการจะต้องรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายแพลตฟอร์มเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและนำเสนอสินค้า/บริการที่ตอบโจทย์
การขยายสู่ตลาดต่างประเทศ: แพลตฟอร์มอย่าง Shopee International Platform (SIP) จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น เป็นโอกาสในการขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
การปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้ประกอบการจะต้องติดตามเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาด การนำเสนอสินค้า และช่องทางการขายให้เหมาะสม รวมถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและการบริการหลังการขาย








