เปิดบริษัท/เปิดหจก. แล้ว ต้องทำอะไรต่อบ้าง? เมื่อการจัดตั้งบริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เป็นการยกระดับธุรกิจเข้าสู่สถานะ นิติบุคคล (Juristic Person) ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนจากความยืดหยุ่นของบุคคลธรรมดาไปสู่ ความมีวินัยและมาตรฐาน ขององค์กร การดำเนินการต่าง ๆ หลังการจดทะเบียนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ถูกกฎหมาย และเกิดประโยชน์สูงสุด นี่คือคำอธิบายโดยละเอียดสำหรับแต่ละรายการ:

1. เช็คระบบเอกสารด้านรายได้ (Revenue Document System) 🧾

ทำไมต้องทำ:

เอกสารรายได้ (ใบแจ้งหนี้, ใบกำกับภาษีขาย) คือ หลักฐานเริ่มต้น ในการคำนวณ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

สิ่งที่ต้องทำ:

• ออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง: บริษัทต้องออก ใบกำกับภาษีเต็มรูป ให้กับลูกค้าอย่างถูกต้อง โดยระบุชื่อกิจการ, ที่อยู่, และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก ให้ครบถ้วน การออกเอกสารผิดพลาดจะทำให้ลูกค้าไม่สามารถนำไปหักภาษีซื้อได้ และบริษัทมีความผิดด้านภาษีขาย
• การรับรู้รายได้: ระบบเอกสารต้องกำหนดวันที่รับรู้รายได้อย่างชัดเจน เพื่อให้การบันทึกบัญชีและการคำนวณกำไรเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

2. เช็คระบบเอกสารด้านรายจ่าย (Expense Document System) 📑

ทำไมต้องทำ:

เอกสารรายจ่ายคือ หัวใจของการประหยัดภาษี ของนิติบุคคล เพราะรายจ่ายที่ถูกต้องจะช่วยลด กำไรสุทธิ ที่ต้องเสียภาษีได้ การตรวจสอบระบบเอกสารรายจ่ายจึงเป็นการป้องกันไม่ให้รายจ่ายกลายเป็น รายจ่ายต้องห้าม

สิ่งที่ต้องทำ:

• ชื่อกิจการต้องถูกต้อง: รายจ่ายทั้งหมด (เช่น ค่าน้ำมัน, ค่าเช่า, ค่าบริการ) ต้องมี ใบกำกับภาษี หรือ ใบเสร็จรับเงิน ที่ออกในนาม นิติบุคคล เท่านั้น หากเอกสารยังเป็นชื่อบุคคลธรรมดา จะไม่สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายของบริษัทได้
• พิสูจน์ความเกี่ยวข้อง: ต้องมีระบบเอกสารภายใน (เช่น ใบสำคัญจ่าย, บันทึกการเดินทาง) เพื่อพิสูจน์ว่ารายจ่ายนั้น เกี่ยวข้องกับกิจการจริง และ พิสูจน์ผู้รับได้ (ตามมาตรา 65 ตรี)

3. หาโปรแกรมที่เหมาะสมต่างๆ มาใช้กับกิจการ 💻

ทำไมต้องทำ:

การทำบัญชีและบริหารจัดการนิติบุคคลมีความซับซ้อนและมีปริมาณงานสูงกว่าบุคคลธรรมดามาก การใช้โปรแกรมที่เหมาะสมจะช่วยสร้าง ประสิทธิภาพ และ ความถูกต้อง

สิ่งที่ต้องทำ:

• โปรแกรมบริหารสต็อก: ช่วยให้คำนวณ ต้นทุนขาย (Cost of Goods Sold) และ มูลค่าสินค้าคงเหลือ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการคำนวณกำไรสุทธิ
• โปรแกรมบริหารค่าแรงและเงินเดือน: ช่วยในการคำนวณ เงินเดือนสุทธิ, การหัก ภาษี ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1), และ เงินสมทบประกันสังคม ซึ่งมีภาระการยื่นรายเดือนที่เคร่งครัด
• โปรแกรมบริหารเงินสดย่อย: สร้างความโปร่งใสและหลักฐานในการใช้จ่ายเงินสดจำนวนเล็กน้อย (Petty Cash) เพื่อให้สามารถนำมาเป็นรายจ่ายของบริษัทได้อย่างถูกต้อง

4. ศึกษาภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ 📜

ทำไมต้องทำ:

นิติบุคคลมีภาระภาษีที่ต้องยื่นเป็น รายเดือน และ รายปี อย่างต่อเนื่อง การขาดความรู้ในภาษีเหล่านี้ทำให้เกิดความเสี่ยงในการถูกประเมิน เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ตั้งแต่เดือนแรกที่เริ่มกิจการ

สิ่งที่ต้องทำ:

• ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย: บริษัทมีหน้าที่ต้องหักและนำส่งภาษีจากการจ่ายเงินเดือน ค่าเช่า หรือค่าบริการ ทุกเดือน (ภ.ง.ด.1, 3, 53)
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม: ต้องยื่นภาษีขายและภาษีซื้อทุกเดือน (ภ.พ.30)
• ภาษีเงินได้นิติบุคคล: ต้องยื่นกลางปี (ภ.ง.ด.51) และสิ้นปี (ภ.ง.ด.50)
• ภาษีอากรแสตมป์/ภาษีป้าย: เป็นภาระภาษีอื่นที่ต้องชำระเมื่อมีรายการที่เข้าข่าย (เช่น การทำสัญญาเช่า หรือการติดตั้งป้าย)

5. หาความรู้ในการดูงบการเงินต่างๆ ให้เป็น 📊

ทำไมต้องทำ:

งบการเงิน (งบฐานะการเงิน, งบกำไรขาดทุน) คือ เครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจ ของเจ้าของกิจการ การดูงบการเงินเป็นไม่เพียงแต่ใช้ในการยื่นภาษี แต่ใช้ในการประเมินสุขภาพของธุรกิจ

สิ่งที่ต้องทำ:

• งบกำไรขาดทุน: ดูว่าธุรกิจมี กำไรสุทธิ จริงหรือไม่ และสามารถ ควบคุมต้นทุน ได้ดีเพียงใด
• งบฐานะการเงิน: ดู สภาพคล่อง (Liquidity) (เงินสดหมุนเวียน), หนี้สิน, และ ความมั่นคง ของบริษัท เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้และการเติบโตในอนาคต

6. วางแผนผลตอบแทนกรรมการและพนักงาน 👨‍💼

ทำไมต้องทำ:

การวางแผนผลตอบแทนอย่างถูกต้องเป็นการบริหาร ภาษีรวมทั้งระบบ อย่างฉลาด (Tax Optimization) โดยการลดกำไรบริษัทและลดภาษีบุคคลธรรมดาของกรรมการไปพร้อมกัน

สิ่งที่ต้องทำ:

• แยกประเภทผลตอบแทน: กำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่าง เงินเดือน (หักเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้), ค่าเช่า (หากกรรมการให้บริษัทเช่าพื้นที่), และ สวัสดิการ (ส่วนที่กฎหมายยกเว้นภาษี)
• ปฏิบัติตามกฎ: ต้องมั่นใจว่าผลตอบแทนที่จ่ายนั้น สมเหตุสมผล และเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร เพื่อให้สามารถหักเป็นรายจ่ายของบริษัทได้อย่างถูกต้อง

7. จัดทำบัญชี และเก็บเอกสารเกี่ยวกับบัญชีอย่างเป็นระบบ 📂

ทำไมต้องทำ:

นี่คือ หน้าที่ตามกฎหมาย ของนิติบุคคล (ตามพระราชบัญญัติการบัญชี) หากไม่จัดทำหรือเก็บเอกสารไม่ครบถ้วน บริษัทอาจถูกปรับทางกฎหมายและมีปัญหาใหญ่เมื่อถูกสรรพากรเรียกตรวจสอบ

สิ่งที่ต้องทำ:

• หลักฐานการตรวจสอบ (Audit Trail): การทำบัญชีที่เป็นระบบช่วยให้สามารถ ตรวจสอบย้อนหลัง การทำธุรกรรมทั้งหมดได้ง่าย ซึ่งเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดเมื่อถูกตรวจสอบภาษี
• การนำส่งงบการเงิน: การทำบัญชีที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานในการจัดทำ งบการเงิน เพื่อยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากร ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการคงสถานะนิติบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมาย

AccProTax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี ประสบการณ์กว่า 25 ปี

“สะดวก รวดเร็ว เข้าใจ ให้คำปรึกษาเชิงรุก”  คือสิ่งที่ AccProTax ให้ความสำคัญ

เพราะเราเข้าใจดีว่า “เรื่องภาษี” ไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ AccProTax จึงมุ่งเน้นการวางระบบบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาการตีความผิดพลาดและลดความเสี่ยงจากการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง ทีมงานของเรามีประสบการณ์กว่า 25 ปี ในการให้บริการทั้งการทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี และวางแผนภาษีอย่างรอบด้าน พร้อมคำปรึกษาที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง

ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้

AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร

 ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
 มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
 ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท

 ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
 ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน

เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/accprotax/

 อีเมล: accprotax@gmail.com
 โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax