เลือกอะไรดี คนละครึ่ง หรือ ช้อปดีมีคืน ?
ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม จะมี 2 โครงการในช่วงปลายปี 2563 คือ โครงการคนละครึ่ง และ ช้อปดีมีคืน ผู้ที่จะเลือกใช้สิทธิต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
โครงการคนละครึ่ง
รัฐจะสนับสนุนเงินแก่ประชาชนในการช้อปซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของราคาสุทธิในใบเสร็จรับเงิน โดยรัฐจะชำระเงินดังกล่าวให้แก่ร้านค้าโดยตรง ภายใต้เงื่อนไข ประชาชนต้องชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป ให้แก่ร้านค้าผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” จำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนให้ต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนจะไม่เกินกว่า 150 บาทต่อวัน และไม่เกินกว่า 3,000 บาท รวมตลอดทั้งโครงการฯ
โครงการช้อปดีมีคืน
เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายสำหรับบุคคลที่เสียภาษีเงินได้ ด้วยการนำค่าซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนจ่ายจริงรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน ซึ่งผู้เสียภาษีแต่ละคนจะได้รับสิทธิ์ ลดหย่อนภาษี มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนเงินที่ซื้อ และคิดอัตราภาษีคืนตามระดับ เงินสุทธิ ในแต่ละปี เช่น เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์คืนภาษีสูงสุด 1,500 บาท ถ้าเงินได้สุทธิต่อปี 750,001-1,000,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท
จะเลือกเข้าโครงการไหนดี
เนื่องจากคุณจะต้องเลือกว่าคุณจะใช้สิทธิในโครงการใดได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น มีข้อแนะนำดังนี้
- ถ้ารายได้ของคุณไม่ถึง 150,000 บาท/ปี หรือ ตลอดปี 2563 คุณไม่มีภาษีที่จะต้องจ่ายเลย ให้เลือกลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง
- ถ้าคุณมีภาษีที่จ่ายตลอดปีมากกว่า 3,000 บาท และมีวางแผนว่าจะซื้อของใช้ในช่วงปลายปี ก็ให้ใช้สิทธิ์เข้าโครงการช้อปดีมีคืน
อย่างไรก็ตามแนวทางนี้เป็นเพียงคำแนะนำ อาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ของคุณที่จะต้องนำมาพิจารณาเพิ่มเติม ขอให้เลือกข้อที่คุณจะได้รับประโยชน์สูงสุด