วางแผนเกษียณฉบับเจ้าของกิจการ
คนส่วนใหญ่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอยากจะเกษียณกันอย่างมีความสุขกันทั้งนั้น แต่กลุ่มที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของกิจการ ก็มีวันต้องเกษียณอายุเหมือนกัน มาดูกันว่า การวางแผนเกษียณของท่านที่เป็นเจ้าของกิจการจะมีความแตกต่างกับมนุษย์เงินเดือนอย่างไร ที่จริงแล้ว มีความยืดหยุ่นมากกว่ากลุ่มมนุษย์เงินเดือน ตรงที่มนุษย์เงินเดือนมีอายุเกษียณที่แน่นอน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 60 ปี แต่เจ้าของกิจการอาจจะเกษียณก่อนหรือหลังอายุ 60 ปีก็ได้ ดังนั้นแหล่งเงินออมหรือเงินทุนที่เตรียมไว้ใช้เพื่อเกษียณ จะขึ้นกับผลประกอบการของธุรกิจ ซึ่งจะมีความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ถ้าจะพูดถึงเจ้าของกิจการซึ่งมีหลากหลายรูปแบบในการประกอบธุรกิจ อาทิ
– รูปแบบเจ้าของกิจการคนเดียว ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ใช้เงินทุนไม่มาก ไม่มีความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจ แต่จะไม่สามารถแยกสินทรัพย์และหนี้สินที่แท้จริงว่าเป็นของธุรกิจหรือของตัวเจ้าของเอง เพราะใช้ร่วมกัน การวางแผนเกษียณของเจ้าของกิจการจะขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของกิจการเพียงคนเดียว
– รูปแบบห้างหุ้นส่วน โดยทั่วไปเป็นการที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงที่จะกระทำกิจการการค้าร่วมกัน มีวัตถุประสงค์ที่จะรับภาระหนี้สินและแบ่งกำไรที่เกิดจากกิจการดังกล่าว เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน จะมีฐานะคล้ายกับบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล และห้างหุ้นส่วนจำกัด ทั้งสองรูปแบบนี้ต้องจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ การจัดตั้งและการเลิกกิจการจะทำได้ยากขึ้น
– รูปแบบบริษัท ทั้งบริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีการแบ่งทุนออกเป็นหุ้นๆ แต่ละหุ้นมีมูลค่าเท่ากัน มีขอบเขตของความรับผิดในมูลหนี้ การจัดตั้งและการเลิกกิจการจะยิ่งทำได้ยากขึ้นกว่าห้างหุ้นส่วน
ทางเลือกหลักในการจัดการกับธุรกิจสำหรับการวางแผนเกษียณของเจ้าของกิจการ มีดังนี้
>> การเลิกกิจการ คือ นำทรัพย์สินขาย และดำเนินการขั้นตอนการเลิกกิจการ และดำเนินการชำระหนี้ทั้งหมดคืนให้กับเจ้าหนี้ ส่วนที่เหลือคืนให้กับเจ้าของกิจการตามสัดส่วน ทางเลือกนี้เหมาะกับธุรกิจที่ไม่สามารถหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาดำเนินการให้ประสบความสำเร็จได้ต่อไป เป็นธุรกิจที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ลูกค้ายอมรับและเชื่อถือในตัวเจ้าของคนเดิมเท่านั้น
>> การดำเนินกิจการต่อไป เพื่อนำรายได้จากธุรกิจมาเป็นเงินทุนสำหรับใช้ในยามเกษียณ ปัจจัยที่สำคัญคือ จะต้องมีผู้รับช่วงต่อที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถ เข้าใจในธุรกิจ สามารถบริหารงานต่อไปได้เป็นอย่างดี โดยหาทางป้องกันการสูญเสียผู้รับช่วง หรือมีแผนการส่งต่อธุรกิจ หรืออาจจะขายกิจการให้กับผู้รับช่วงต่อในอนาคต
>> การขายธุรกิจให้แก่ผู้อื่น เพื่อนำรายได้จากการขายธุรกิจดังกล่าวมาเป็นเงินทุนสำหรับใช้ในวัยเกษียณ ปัจจัยที่จะขายธุรกิจได้ในราคาที่เป็นธรรม จะต้องมีแผนในการเจรจาต่อรองราคาซื้อขาย ข้อกำหนดและเงื่อนไขในสัญญาซื้อขาย
การวางแผนเพื่อวัยเกษียณของเจ้าของกิจการ ขั้นตอนหรือกระบวนการวางแผนเหมือนกับการวางแผนเกษียณของกลุ่มมนุษย์เงินเดือน สิ่งสำคัญก็คือ การประมาณการกระแสเงินสดของผู้ประกอบการซึ่งมีความยากลำบากกว่า เนื่องจากมีความผันผวนสูง ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก จึงต้องมีการทบทวน ติดตามแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ต้องการ
อ้างอิง : https://www.maruey.com/article/contentinjournal/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%93%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-1000