ในความเป็นจริง ภาษี NIT ไม่ได้สร้างผลดีต่อทุกกลุ่มเสมอไป เพราะเมื่อระบบ NIT ถูกนำมาใช้จริง กลุ่มที่เคยได้ประโยชน์จากโครงสร้างภาษีแบบเก่ากลับต้องเผชิญแรงกระทบ ทั้งภาระด้านการวางแผนภาษี การจัดการเอกสารจากสรรพากร และความไม่ชัดเจนในการตีความกติกา NIT ทำให้เกิดคำถามว่า ใครคือผู้เสียประโยชน์ตัวจริงในระบบใหม่นี้ โดยวันนี้ AccProTax จะขอนำเสนอบทความที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดประโยชน์กับคนไทยทุกคน ซึ่งต้องมีความเกี่ยวข้องกับ “ระบบภาษี”
กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง สูญเสียสมดุลทางรายได้จาก NIT (Negative Income Tax)

แม้ NIT ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยให้เกิดแรงกระตุ้นต่าง ๆ ในการอยู่ในระบบแรงงาน แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดผลกระทบกับกลุ่มรายได้ปานกลางที่อาจเสียประโยชน์ เพราะ NIT กำหนดเส้นแบ่งรายได้ที่ชัดเจน หากรายได้เกินเกณฑ์เพียงเล็กน้อย ผู้เสียภาษีต้องรับภาระเต็มโดยไม่ได้รับสิทธิชดเชยจาก NIT เลย ความไม่ต่อเนื่องแบบนี้ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมในบางมิติ
นอกจากนี้ ภาษี ที่ต้องจ่ายยังไม่ลดลงตามที่หลายคนคาด เพราะ NIT ไม่ได้ปรับโครงสร้างภาษีโดยรวม แต่เพียงโยกเงินกลับไปยังกลุ่มรายได้น้อย ส่งผลให้สรรพากรต้องเข้ามาคุมเข้มเรื่องการรายงานรายได้ เพื่อป้องกันการปกปิดรายได้เล็กน้อยที่อาจเปลี่ยนผลลัพธ์ของ NIT ได้โดยตรง
รัฐบาล และสรรพากร ต้องแบกรับต้นทุนจาก NIT (Negative Income Tax)

อีกกลุ่มที่อาจเสียประโยชน์ คือรัฐบาลเอง แม้ NIT ทำให้การจัดสรรงบประมาณด้านสวัสดิการตรงจุดมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกด้วยต้นทุนที่สูงมากในการดำเนินการระบบ NIT ต้องใช้โครงสร้างภาษีใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ฐานข้อมูล ไป จนถึงการตรวจสอบรายได้ทุกขั้นตอน
สรรพากร เองก็ต้องเพิ่มเครื่องมือในการตรวจสอบ เพราะหากมีการปกปิดรายได้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้บุคคลบางกลุ่มได้รับเงินจาก NIT โดยไม่สมควร ระบบนี้จึงสร้างภาระงานที่มากขึ้น ขณะเดียวกันยังทำให้รัฐมีรายได้จากภาษีลดลง เนื่องจากงบประมาณจำนวนหนึ่งถูกเปลี่ยนเป็นเงินโอนออกไปสนับสนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยผ่านการได้รับสวัสดิการจากภาครัฐแทน ดังนั้นเมื่อระบบภาษี NIT เริ่มนำมาปฎิบัติใช้ในปี 2570 นี้ ระบบการตรวจสอบจากกรมสรรพากรจะต้องเข้มข้นมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมของระบบภาษีแก่ทุกฝ่าย
ธุรกิจ อาจเผชิญแรงกดดันใหม่จาก NIT (Negative Income Tax)

ธุรกิจเองก็ไม่ได้รอดพ้นจากผลกระทบของ NIT แม้ตลาดผู้บริโภคจะมีเสถียรภาพขึ้น แต่ธุรกิจต้องรับแรงกดดันทางอ้อมจากภาษี เพราะภาครัฐจำเป็นต้องหาทางเพิ่มรายได้กลับคืน หลังจากโอนเงินออกไปในระบบ NIT นั่นหมายความว่าอัตราภาษี หรือกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ จากสรรพากร อาจถูกปรับเพื่อชดเชย
ยิ่งไปกว่านั้น การวางแผนภาษีที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้ธุรกิจเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบย้อนหลัง หากไม่เข้าใจกติกา NIT อย่างถ่องแท้ ผลลัพธ์อาจคือเบี้ยปรับเงินเพิ่มทางภาษี หรือโดนภาษีย้อนหลังที่กลายเป็นภาระโดยไม่ตั้งใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นการศึกษาและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภาษีในภาพรวม รวมถึง Negative Income Tax (NIT) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้อาจจะเป็นเรื่องยากในการทำความเข้าใจเชิงลึก แต่หากเราทำความเข้าใจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้ตัวเราเองสามารถอยู่ในระบบภาษีใหม่ NIT ที่กำลังมาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
สังคมบางส่วน เสียประโยชน์จากความไม่เสมอภาคใน NIT

แม้ NIT จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในภาพรวม แต่ก็สร้าง “ช่องว่างใหม่” ขึ้นมา เมื่อเส้นแบ่งรายได้ชัดเจน คนที่อยู่ “ใกล้เส้น” จะรู้สึกเสียเปรียบทันทีหากไม่ได้สิทธิ แม้จะมีรายได้เพียงเล็กน้อยเกินเกณฑ์ สิ่งนี้ทำให้บางกลุ่มในสังคมเสียประโยชน์ และเกิดแรงกดดันต่อระบบ NIT
ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจคือความไม่พอใจทางสังคม และเพิ่มความตึงเครียดในการตีความภาษี ซึ่งสรรพากรจำเป็นต้องเข้ามาอธิบายอย่างต่อเนื่อง หากไม่ทำชัดเจน ความเชื่อมั่นต่อ NIT จะถูกตั้งคำถามมากยิ่งขึ้น
“ความเสี่ยง”ของคนที่ไม่เข้าใจ NIT (Negative Income Tax)
ความซับซ้อนของ NIT ทำให้ทั้งบุคคล และธุรกิจอาจเผชิญปัญหาโดยไม่ตั้งใจ การไม่เข้าใจระบบภาษีใหม่นี้เสี่ยงต่อหลายอย่าง ได้แก่
- พลาดสิทธิประโยชน์จาก NIT ที่ควรได้รับ
- เจอค่าเบี้ยปรับเงินเพิ่มทางภาษี หากกรอกแบบแสดงรายการเงินได้ หรือรายงานผลประกอบผิดพลาด ไม่ตรงความเป็นจริง
- เสี่ยงต่อการโดนภาษีย้อนหลัง หากสรรพากรตรวจพบความคลาดเคลื่อน
ประโยชน์จะเป็นของคุณก็ต่อเมื่อเข้าใจ NIT (Negative Income Tax)
NIT ไม่ใช่ระบบที่ทุกคนได้ประโยชน์โดยตรงเสมอไป หากไม่เข้าใจ อาจกลายเป็นต้นทุนโดยตรงทั้งจากภาษี ค่าเบี้ยปรับเงินเพิ่มทางภาษี หรือโดนภาษีย้อนหลัง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการวางแผนภาษีให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบกติกาใหม่ที่สรรพากรกำหนด อย่างใดก็ตามด้วยคำว่า NIT (Negative Income Tax) ไม่ใช่ระบบที่จะสร้าง “ผลประโยชน์” โดยตรงให้กับทุกคน
แต่ด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจความรู้และข้อมูลอย่างถูกต้อง จะช่วยทำให้การทำธุรกิจซึ่งต้องมีเรื่องภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว มีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุด ภาพรวมอนาคตของ NIT (Negative Income Tax) ก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไป
AccProTax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี ประสบการณ์กว่า 25 ปี
เรื่อง NIT และภาษีไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม AccProTax พร้อมช่วยเหลือคุณทั้งด้านการทำบัญชีรายเดือน–รายปี ตรวจสอบบัญชี และการวางแผนภาษี (Tax Planning) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าปรับและภาษีย้อนหลัง
“เพราะเราเข้าใจว่าเรื่องภาษีและ NIT มีผลต่อความมั่นคงของธุรกิจ การวางแผนจึงไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่คือการสร้างเกราะป้องกันความเสี่ยงในอนาคต”
ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้
AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร
ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท
ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/accprotax/
อีเมล: accprotax@gmail.com
โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax
เริ่มต้นจดทะเบียนบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด การจัดทำบัญชี วางแผนภาษี และการขอใบอนุญาตต่างๆ อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และใช้ระยะเวลานาน การมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานจดทะเบียนธุรกิจเป็นที่ปรึกษาและวางแผนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข้อมูลต่อทางการอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญของก้าวแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เรายินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พร้อมให้คำแนะนำในด้านการจดทะเบียน บริษัท(บจก.) ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.) อย่างครบวงจร รวมถึง จัดทำบัญชี และวางแผนภาษี (Tax Planning) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูล เรายินดีช่วยเหลือ ให้บริการที่รวดเร็ว ทันเวลา ราคาเหมาะสม คุยอย่างเป็นกันเอง ยินดีให้บริการอย่างเต็มที่ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี
กรุณากรอกข้อมูล โดยผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับ ให้คำปรึกษาที่ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็ว