ข้อควรทราบ:
- เงินเพิ่ม: เป็นเบี้ยปรับที่คำนวณจากจำนวนภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม หรือชำระภาษีล่าช้า โดยคิดเป็นอัตราร้อยละต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
- เบี้ยปรับ: เป็นบทลงโทษที่กำหนดเป็นอัตราร้อยละของจำนวนภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม หรือตามจำนวนภาษีที่แสดงไว้ในแบบ
- ค่าปรับอาญา: เป็นโทษปรับตามกฎหมายอาญา ที่กำหนดเป็นจำนวนเงิน โดยไม่มีการคำนวณจากยอดภาษี แต่ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของความผิด และอาจมีโทษจำคุกร่วมด้วย
ประเภทค่าปรับทางภาษีที่พบบ่อยของกรมสรรพากร
1. ค่าปรับในกรณี “ยื่นแบบฯ เกินกำหนดเวลา” (ล่าช้า)
-
เงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90/91):
- ยื่นล่าช้า แต่มีภาษีต้องชำระ:
- เงินเพิ่ม: 1.5% ต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระ นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาจนถึงวันชำระภาษี แต่สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษี
- เบี้ยปรับ (อาญา): 1. ยื่นเกินกำหนด 1-7 วัน (ไม่เกิน 7 วัน) ไม่ต้องเสียค่าปรับอาญา (ม.67 ตรี) 2. ยื่นเกิน 7 วัน และมีภาษีต้องชำระ เสียค่าปรับ 200 บาท
- ยื่นล่าช้า แต่ไม่มีภาษีต้องชำระ หรือได้รับคืน:
- ค่าปรับอาญา: 200 บาท (สำหรับกรณีที่ยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.90/91 เกินกำหนด)
- ยื่นล่าช้า แต่มีภาษีต้องชำระ:
-
เงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50/51):
- เงินเพิ่ม: 1.5% ต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระ นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาจนถึงวันชำระภาษี แต่สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษี
- เบี้ยปรับ (อาญา): 2,000 บาท (สำหรับกรณีที่ยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.50/51 เกินกำหนด)
-
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30):
- ยื่นล่าช้า แต่มีภาษีต้องชำระ:
- เงินเพิ่ม: 1.5% ต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระ แต่สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษี
- เบี้ยปรับ:
- ยื่นภายใน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 300 บาท
- ยื่นเกิน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 500 บาท
- ยื่นล่าช้า แต่ไม่มีภาษีต้องชำระ หรือได้รับคืน:
- เบี้ยปรับ:
- ยื่นภายใน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 300 บาท
- ยื่นเกิน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 500 บาท
- เบี้ยปรับ:
- ยื่นล่าช้า แต่มีภาษีต้องชำระ:

ภ.พ.36 คือ แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการในประเทศไทย (ผู้ซื้อสินค้า/บริการ) มีหน้าที่ต้องยื่นและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม แทน ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร (ผู้ขาย/ผู้ให้บริการต่างประเทศ) ในกรณีที่:
- ซื้อบริการจากต่างประเทศ: ผู้ประกอบการในไทยซื้อบริการจากผู้ประกอบการนอกประเทศ และมีการใช้บริการนั้นในประเทศไทย (เช่น ค่าโฆษณาออนไลน์จากต่างประเทศ, ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ)
- นำเข้าสินค้าที่ไม่มีตัวตน: เช่น ซอฟต์แวร์, เพลง, รูปภาพ ที่ดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ต และมีการใช้ในประเทศไทย
ในกรณีเหล่านี้ ผู้ประกอบการในไทยมีฐานะเป็น “ผู้รับโอน” และมีหน้าที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของมูลค่าบริการ/สินค้าที่ไม่มีตัวตนนั้น ให้กับกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์)
ค่าปรับทางภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.36) ของสรรพากร
ค่าปรับสำหรับ ภ.พ.36 จะคล้ายคลึงกับค่าปรับของภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทอื่น ๆ (ภ.พ.30) แต่มีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาตามลักษณะความผิด:
1. กรณี “ยื่นแบบฯ เกินกำหนดเวลา” (ล่าช้า) หรือ “ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย”
-
เงินเพิ่ม:
- คิดในอัตรา 1.5% ต่อเดือน หรือเศษของเดือน ของเงินภาษีที่ต้องนำส่ง (ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องนำส่งแทนผู้ประกอบการต่างประเทศ)
- นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลา (วันที่ 7 ของเดือนถัดไป หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์) จนถึงวันที่ชำระภาษี
- สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินภาษี ที่ต้องนำส่ง
-
เบี้ยปรับ:
- กรณีมีภาษีต้องนำส่ง:
- ยื่นภายใน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 300 บาท
- ยื่นเกิน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 500 บาท
- กรณีไม่มีภาษีต้องนำส่ง (เช่น ยื่นแบบฯ เปล่า):
- ยื่นภายใน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 300 บาท
- ยื่นเกิน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 500 บาท
- กรณีมีภาษีต้องนำส่ง:

-
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1, 3, 53, ฯลฯ):
- ยื่นล่าช้า แต่มีภาษีต้องนำส่ง:
- เงินเพิ่ม: 1.5% ต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) ของเงินภาษีที่ต้องนำส่ง แต่สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษี
- เบี้ยปรับ:
- ยื่นภายใน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 100 บาท
- ยื่นเกิน 7 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด: ปรับ 200 บาท
- ยื่นล่าช้า แต่ไม่มีภาษีต้องนำส่ง:
- เบี้ยปรับ: 100 บาท (สำหรับการยื่นแบบฯ เกินกำหนด ไม่ว่าจะมีภาษีหรือไม่ก็ตาม)
- ยื่นล่าช้า แต่มีภาษีต้องนำส่ง:

ภ.ง.ด.51 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ครึ่งปี) ที่นิติบุคคลส่วนใหญ่มีหน้าที่ต้องยื่นและชำระภาษี โดยเป็นการ ประมาณการ กำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น แล้วนำกำไรสุทธิที่ประมาณการได้มาคำนวณภาษี
- กำหนดเวลายื่น: ภายใน 2 เดือนนับจากวันสุดท้ายของครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (เช่น หากรอบบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค. วันสุดท้ายของครึ่งรอบคือ 30 มิ.ย. ต้องยื่นภายใน 31 ส.ค.)
ค่าปรับทางภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ของสรรพากร
ค่าปรับสำหรับ ภ.ง.ด.51 สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีหลักๆ คือ การยื่นล่าช้า และการประมาณการกำไรสุทธิขาดไป
1. กรณี “ยื่นแบบฯ เกินกำหนดเวลา” (ล่าช้า) หรือ “ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย”
-
เงินเพิ่ม:
- 1.5% ต่อเดือน หรือเศษของเดือน ของเงินภาษีที่ต้องชำระ (หากมี)
- นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลา (ภายใน 2 เดือนนับจากวันสุดท้ายของครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี) จนถึงวันที่ชำระภาษี
- สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินภาษี ที่ต้องชำระ
-
ค่าปรับอาญา:
- 2,000 บาท (สำหรับกรณีที่ยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.51 เกินกำหนด ไม่ว่าจะมีภาษีต้องชำระหรือไม่ก็ตาม)
2. กรณี “ประมาณการกำไรสุทธิขาดไป” (ต่ำกว่าความเป็นจริง)
นี่คือประเด็นสำคัญและเป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับ ภ.ง.ด.51 เนื่องจากเป็นการประมาณการ หากประมาณการผิดพลาดมากเกินไป จะมีบทลงโทษ
-
เงื่อนไขการถูกปรับ:
- เมื่อประมาณการกำไรสุทธิใน ภ.ง.ด.51 ขาดไปเกินกว่า 25% ของกำไรสุทธิที่ได้จากกิจการจริงในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น (ซึ่งจะทราบเมื่อยื่น ภ.ง.ด.50 ตอนสิ้นปี)
- โดยไม่มีเหตุอันสมควร
-
บทลงโทษ:
- เบี้ยปรับ: 20% (ร้อยละ 20) ของจำนวนเงินภาษีที่ชำระขาดไป (ภาษีที่ชำระตาม ภ.ง.ด.51 น้อยกว่า ภาษีที่ควรจะเป็น 25% ของกำไรสุทธิทั้งปี)
-
“เหตุอันสมควร” ที่อาจได้รับการยกเว้นเบี้ยปรับ: กรมสรรพากรได้กำหนด “เหตุอันสมควร” ที่ทำให้ได้รับการยกเว้นเบี้ยปรับกรณีประมาณการกำไรขาดไปเกิน 25% ซึ่งรวมถึง:
- ภัยธรรมชาติ: เช่น น้ำท่วม, ไฟไหม้, แผ่นดินไหว ที่ส่งผลกระทบต่อกิจการอย่างรุนแรง
- การนัดหยุดงาน หรือการปิดกิจการชั่วคราว: ที่ไม่ได้เกิดจากการกระทำของนิติบุคคลนั้น
- การถูกเวนคืนหรือถูกบังคับซื้อทรัพย์สิน: โดยหน่วยงานของรัฐ
- การถูกฟ้องล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์:
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล: ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ของกิจการ
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ: เช่น การควบรวมกิจการ, การเลิกกิจการบางส่วน
- การเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชี: ที่ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากร
- มีเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ: ที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเหตุอันสมควร
ข้อสำคัญ: การประมาณการผิดพลาดโดยไม่มีเหตุผลรองรับ เช่น เพียงแค่ประมาณการต่ำไว้ก่อน หรือประมาณการโดยไม่ได้พิจารณาข้อมูลที่เพียงพอ มักจะไม่ถือเป็น “เหตุอันสมควร” และจะถูกปรับ

ภ.ง.ด.50 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำรอบระยะเวลาบัญชี (สิ้นปี) ที่นิติบุคคลทุกแห่งมีหน้าที่ต้องยื่นและชำระภาษี โดยเป็นการคำนวณภาษีจาก กำไรสุทธิ ที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นจริงๆ
- กำหนดเวลายื่น: ภายใน 150 วันนับจากวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี (เช่น หากรอบบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค. ต้องยื่นภายใน 15 พ.ค. ของปีถัดไป)
ค่าปรับทางภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี (ภ.ง.ด.50) ของสรรพากร
ค่าปรับสำหรับ ภ.ง.ด.50 สามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณีหลักๆ คือ การยื่นล่าช้า, การชำระภาษีขาด/ต่ำไป, และความผิดร้ายแรงอื่นๆ
1. กรณี “ยื่นแบบฯ เกินกำหนดเวลา” (ล่าช้า) หรือ “ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย”
-
เงินเพิ่ม:
- 1.5% ต่อเดือน หรือเศษของเดือน ของเงินภาษีที่ต้องชำระ (หากมี)
- นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลา (ภายใน 150 วันนับจากวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี) จนถึงวันที่ชำระภาษี
- สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินภาษี ที่ต้องชำระ
-
ค่าปรับอาญา:
- 2,000 บาท (สำหรับกรณีที่ยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.50 เกินกำหนด ไม่ว่าจะมีภาษีต้องชำระหรือไม่ก็ตาม)
2. กรณี “ยื่นแบบฯ แล้ว แต่ชำระภาษีขาด/ต่ำไป” หรือ “ไม่ได้ยื่นแบบฯ และไม่ได้ชำระภาษีเลย”
หากสรรพากรตรวจสอบพบในภายหลังว่ามีภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระเพิ่มเติม:
-
เงินเพิ่ม:
- 1.5% ต่อเดือน หรือเศษของเดือน ของภาษีที่ชำระขาดไป
- นับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดชำระ (ภายใน 150 วันนับจากวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี) จนถึงวันชำระจริง
- สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินภาษี ที่ชำระขาดไป
-
เบี้ยปรับ: (เป็นอัตราร้อยละของภาษีที่ชำระขาดไป)
- กรณี ยื่นแบบฯ ไว้แล้ว แต่ชำระขาดไป:
- เบี้ยปรับ 0.5 เท่า (50%) ถึง 1 เท่า (100%) ของภาษีที่ชำระขาดไป
- กรณี ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย:
- เบี้ยปรับ 2 เท่า (200%) ของภาษีที่ต้องชำระ
หมายเหตุเกี่ยวกับเบี้ยปรับ:
- ในกรณีที่นิติบุคคลมาติดต่อขอแก้ไขและชำระภาษีเพิ่มเติมด้วยตนเอง ก่อนที่เจ้าพนักงานจะแจ้งให้ทราบหรือออกหมายเรียก อาจได้รับการลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5 เท่า (50%) ของภาษีที่ชำระขาดไป
- หากถูกตรวจสอบและประเมินภาษีโดยสรรพากร เบี้ยปรับมักจะเป็นอัตราสูงสุด (2 เท่า)
- กรณี ยื่นแบบฯ ไว้แล้ว แต่ชำระขาดไป:

3. ค่าปรับทางอาญาอื่นๆ (กรณีความผิดร้ายแรง)
เป็นค่าปรับที่กำหนดเป็นจำนวนเงิน และอาจมีโทษจำคุกร่วมด้วย หากมีการกระทำผิดที่ร้ายแรง เช่น:
-
จงใจหลีกเลี่ยงภาษี / ฉ้อโกงภาษี (มาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร):
- โทษ: จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
เจตนาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร (มาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร):
- โทษ: จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (กรณีการแสดงรายได้, การหักค่าใช้จ่าย, การหักลดหย่อนที่สำคัญ)
-
ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีตามกำหนด และมีเจตนาหลีกเลี่ยง (มาตรา 37 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร):
- โทษ: จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
ไม่จัดทำบัญชี หรือจัดทำบัญชีไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง (ตามกฎหมายบัญชี/ประมวลรัษฎากร):
- อาจมีโทษปรับตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และส่งผลให้สรรพากรไม่เชื่อถือข้อมูลที่ยื่น และประเมินภาษีตามอำนาจ
ค่าปรับในกรณี “ยื่นแบบฯ แต่ชำระภาษีขาด/ต่ำไป” หรือ “ไม่ได้ยื่นแบบฯ และไม่ได้ชำระภาษี”
-
กรณีตรวจสอบพบในภายหลังว่ามีภาษีต้องชำระเพิ่ม:
-
- เงินเพิ่ม: 1.5% ต่อเดือน (หรือเศษของเดือน) ของภาษีที่ชำระขาดไป นับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดชำระจนถึงวันชำระจริง (สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินภาษี)
- เบี้ยปรับ: (เป็นอัตราร้อยละของภาษีที่ชำระขาดไป)
- ภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.90/91, ภ.ง.ด.50/51):
- ยื่นแบบฯ ไว้แล้ว แต่ชำระขาดไป: เบี้ยปรับ 0.5 – 1 เท่า (50% – 100%) ของภาษีที่ชำระขาด
- ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย: เบี้ยปรับ 2 เท่า (200%) ของภาษีที่ต้องชำระ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30):
- ยื่นแบบฯ ไว้แล้ว แต่ชำระขาดไป: เบี้ยปรับ 1 เท่า (100%) ของภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม
- ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย: เบี้ยปรับ 2 เท่า (200%) ของภาษีที่ต้องชำระ
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1, 3, 53, ฯลฯ):
- ยื่นแบบฯ ไว้แล้ว แต่ชำระขาดไป: เบี้ยปรับ 1 เท่า (100%) ของภาษีที่ต้องนำส่งเพิ่ม
- ไม่ได้ยื่นแบบฯ เลย: เบี้ยปรับ 2 เท่า (200%) ของภาษีที่ต้องนำส่ง
- ภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.90/91, ภ.ง.ด.50/51):

-
หมายเหตุเรื่องเบี้ยปรับ:
- ในกรณีที่ผู้เสียภาษีมาติดต่อขอแก้ไขและชำระภาษีเพิ่มเติมด้วยตนเอง ก่อนที่เจ้าพนักงานจะแจ้งให้ทราบหรือออกหมายเรียก อาจได้รับการลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5 เท่า (50%) หรือ 1 เท่า (100%) แล้วแต่กรณี ขึ้นอยู่กับประเภทภาษีและความสมัครใจในการแก้ไขความผิดพลาด
- หากถูกตรวจสอบและประเมินภาษีโดยสรรพากร เบี้ยปรับมักจะเป็นอัตราสูงสุด (2 เท่า)
สรุป:
การทำความเข้าใจค่าปรับทางภาษีแต่ละประเภทเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงภาระค่าปรับที่ไม่จำเป็น การยื่นแบบฯ และชำระภาษีให้ครบถ้วนตามกำหนดเวลาจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญสูงสุด หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หรือติดต่อกรมสรรพากรโดยตรงค่ะ

ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้
AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร
ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท
ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
อีเมล: accprotax@gmail.com
โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax








