บอจ.1 หรือคำขอจดทะเบียนบริษัท คือ เอกสารสำคัญที่ใช้ในการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (Department of Business Development: DBD) กระทรวงพาณิชย์ . พูดง่ายๆ คือเป็น “คำร้อง” อย่างเป็นทางการเพื่อขอให้รัฐบาลรับรองสถานะทางกฎหมายของบริษัท และเป็นหลักฐานที่แสดงว่าบริษัทได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
องค์ประกอบสำคัญของแบบ บอจ.1
ในแบบ บอจ.1 จะมีการระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบริษัทอย่างละเอียด ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบและจดทะเบียนบริษัทให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้:
- ชื่อบริษัท: ต้องเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกับบริษัทอื่น และต้องมีคำว่า “บริษัท” และ “จำกัด” กำกับอย่างชัดเจน
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: ที่อยู่ของบริษัทที่จะใช้เป็นที่ติดต่อหลัก
- วัตถุประสงค์ของบริษัท: ระบุรายละเอียดของธุรกิจที่บริษัทจะทำ เช่น ซื้อขายสินค้า, บริการที่ปรึกษา, หรือการผลิต
- ทุนจดทะเบียน: ระบุจำนวนเงินทุนที่ใช้ในการจัดตั้งบริษัท และมูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้น
- ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติของกรรมการและผู้ถือหุ้น: ข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและเป็นเจ้าของบริษัท
- รายละเอียดเกี่ยวกับหุ้น: เช่น จำนวนหุ้นที่ออกจำหน่าย และมูลค่าที่ชำระแล้ว
- ข้อบังคับของบริษัท: กฎระเบียบภายในที่ใช้ในการบริหารงาน เช่น อำนาจกรรมการ, การประชุมผู้ถือหุ้น
- ลายมือชื่อผู้ก่อการ: ผู้ที่ยื่นคำขอจดทะเบียนจะต้องลงนามเพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด
ความสำคัญของแบบ บอจ.1
- สร้างสถานะทางกฎหมาย: เมื่อแบบ บอจ.1 ได้รับการอนุมัติ บริษัทก็จะมีสถานะเป็นนิติบุคคล ทำให้สามารถทำธุรกรรมทางกฎหมายได้ เช่น การเซ็นสัญญา, การเปิดบัญชีธนาคาร, การเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
- ให้ข้อมูลพื้นฐานแก่สาธารณะ: ข้อมูลในแบบ บอจ.1 จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้บุคคลภายนอกสามารถตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของบริษัทได้ ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ
- ควบคุมและตรวจสอบ: แบบฟอร์มนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ภาครัฐสามารถควบคุมการจัดตั้งธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมาย และสามารถตรวจสอบได้หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกิจกรรมของบริษัท

บอจ.2 หรือหนังสือบริคณห์สนธิ (Memorandum of Association) คือ เอกสารสำคัญฉบับแรกที่ใช้ในการจัดตั้งบริษัทจำกัด เป็นเหมือน “ธรรมนูญ” หรือข้อกำหนดเบื้องต้นที่ใช้ในการก่อตั้งบริษัท โดยจะระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบริษัทอย่างเป็นทางการ และถือเป็นสัญญาที่ผู้ก่อการตกลงร่วมกันว่าจะจัดตั้งบริษัทขึ้นตามข้อกำหนดที่ระบุไว้
ข้อมูลสำคัญที่ต้องมีในหนังสือบริคณห์สนธิ
หนังสือบริคณห์สนธิเป็นเอกสารที่มีรายละเอียดสำคัญและต้องจัดทำตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะต้องมีข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้:
- ชื่อบริษัท: ต้องระบุชื่อบริษัทที่ต้องการจะจดทะเบียน และต้องมีคำว่า “บริษัท” และ “จำกัด” กำกับท้ายชื่อเสมอ
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: ต้องระบุที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทในจังหวัดที่แน่นอน เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อและการตรวจสอบ
- วัตถุประสงค์ของบริษัท: เป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะต้องระบุ ประเภทของธุรกิจ หรือกิจกรรมที่บริษัทจะดำเนินการอย่างชัดเจนและครอบคลุม ตัวอย่างเช่น การซื้อขายสินค้า, การให้บริการที่ปรึกษา, หรือการผลิตเครื่องจักร
- ทุนจดทะเบียน: ต้องระบุจำนวนทุนจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัท และมูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้น เช่น ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท
- ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และจำนวนหุ้นของผู้เริ่มก่อการ: ต้องระบุข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัทอย่างน้อย 3 คน พร้อมทั้งระบุจำนวนหุ้นที่แต่ละคนถือในขั้นเริ่มต้น
- ลายมือชื่อผู้เริ่มก่อการ: ผู้ก่อตั้งทุกคนต้องลงลายมือชื่อในหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลและแสดงเจตจำนงในการร่วมก่อตั้งบริษัท

บอจ.3 หรือรายการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คือ เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด โดยเป็นแบบฟอร์มที่สรุปข้อมูลสำคัญทั้งหมดของบริษัทที่จะจดทะเบียน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในการบันทึกและออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัทต่อไป . พูดง่ายๆ คือเป็นเอกสารที่รวบรวมและยืนยันข้อมูลสำคัญของบริษัทที่จะจดทะเบียนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
รายละเอียดที่สำคัญใน บอจ.3
แบบ บอจ.3 จะมีรายละเอียดที่ครอบคลุมและลงลึกกว่าหนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2) โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องระบุได้แก่:
- ข้อมูลทั่วไปของบริษัท:
- ชื่อบริษัท (ต้องตรงกับในหนังสือบริคณห์สนธิ)
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
- วัตถุประสงค์ของบริษัท
- ทุนจดทะเบียนและมูลค่าหุ้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น:
- ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติ และจำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละราย
- จำนวนหุ้นที่แต่ละคนชำระแล้ว (ต้องระบุให้ชัดเจนว่าแต่ละคนชำระค่าหุ้นแล้วเป็นจำนวนเท่าใด)
- ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการ:
- ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติ และจำนวนหุ้นของกรรมการแต่ละคน
- อำนาจของกรรมการ: ระบุว่ากรรมการคนใดมีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทได้บ้าง (เช่น กรรมการ 2 ใน 3 คนลงนามร่วมกัน หรือ กรรมการคนเดียวมีอำนาจ)
- ชื่อและที่อยู่ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท
- ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง:
- ที่ตั้งของสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
- ข้อบังคับของบริษัท (ถ้ามี)
- วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท
ความสำคัญของ บอจ.3
บอจ.3 มีความสำคัญเพราะเป็นเอกสารที่ สรุปข้อมูลและยืนยันรายละเอียดที่สำคัญที่สุด ของบริษัทก่อนที่จะได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ เป็นเหมือนการตรวจสอบความถูกต้องขั้นสุดท้ายก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปบันทึกในทะเบียนบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงของบริษัทไปตลอดอายุการดำเนินงาน

บอจ.4 หรือรายการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมและ/หรือมติพิเศษ คือ เอกสารที่ใช้สำหรับการแจ้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญของบริษัท ที่ได้จดทะเบียนไปแล้วกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ . เอกสารนี้จะถูกใช้เมื่อบริษัทต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2), รายการจดทะเบียนจัดตั้ง (บอจ.3) หรือต้องการแจ้งมติพิเศษที่สำคัญของผู้ถือหุ้น
รายละเอียดที่สำคัญในแบบ บอจ.4
แบบ บอจ.4 จะใช้เพื่อแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในหลากหลายกรณี โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
- ข้อมูลบริษัท: ต้องระบุชื่อ ที่ตั้ง เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท เพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่แก้ไขเป็นของบริษัทใด
- รายการที่ต้องการแก้ไข:
- แก้ไขชื่อบริษัท: เมื่อบริษัทต้องการเปลี่ยนชื่อ
- แก้ไขวัตถุประสงค์ของบริษัท: เมื่อบริษัทต้องการเพิ่มหรือลดประเภทของธุรกิจที่ทำ
- แก้ไขที่ตั้งสำนักงานใหญ่/สาขา: เมื่อย้ายที่ทำการบริษัท
- แก้ไขทุนจดทะเบียน:
- เพิ่มทุน: เมื่อบริษัทต้องการเพิ่มทุนเพื่อขยายกิจการ
- ลดทุน: เมื่อต้องการลดทุนเพื่อคืนเงินให้ผู้ถือหุ้น หรือล้างขาดทุนสะสม
- แก้ไขอำนาจกรรมการ: เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจการลงนามของกรรมการ หรือผู้มีอำนาจ
- แก้ไขชื่อกรรมการ/ผู้ถือหุ้น: เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการหรือผู้ถือหุ้นรายใหม่
- มติพิเศษ:
- การควบรวมหรือเลิกบริษัท: เมื่อบริษัทจะทำการควบรวมกับบริษัทอื่นหรือจะเลิกกิจการ
- การแก้ไขข้อบังคับ: เมื่อมีการแก้ไขกฎระเบียบภายในของบริษัท
- วันที่มีมติ: ต้องระบุวันที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่มีมติพิเศษเพื่ออนุมัติการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ
- รายละเอียดการแก้ไข: ต้องระบุรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เช่น “จากชื่อเดิม บริษัท ก จำกัด แก้ไขเป็น บริษัท ข จำกัด”
ความสำคัญของ บอจ.4
การยื่นแบบ บอจ.4 มีความสำคัญเพราะเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่ทำให้ข้อมูลของบริษัทในฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นปัจจุบันและถูกต้องเสมอ . การเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญของบริษัทโดยไม่แจ้งให้ทางการทราบอาจทำให้ธุรกรรมทางกฎหมายบางอย่างไม่มีผลสมบูรณ์ และทำให้บริษัทเสียความน่าเชื่อถือกับคู่ค้าหรือสถาบันการเงินได้ ดังนั้น การยื่นแบบ บอจ.4 จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสถานะทางกฎหมายของบริษัทให้ถูกต้องและสมบูรณ์อยู่เสมอ

บอจ.5 หรือสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้น คือ เอกสารที่แสดงรายชื่อและรายละเอียดของผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทจำกัด ณ วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท หรือ ณ วันที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ถือหุ้น เอกสารนี้ใช้ประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและทุนของบริษัท
รายละเอียดที่สำคัญในแบบ บอจ.5
แบบ บอจ.5 ไม่ใช่แบบฟอร์มเปล่า แต่เป็นเอกสารที่ต้องจัดทำขึ้นเองและมีข้อมูลสำคัญที่ต้องระบุให้ครบถ้วน ซึ่งได้แก่:
- ข้อมูลบริษัท: ต้องระบุชื่อบริษัท, ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และเลขทะเบียนนิติบุคคล
- ข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือหุ้นแต่ละราย:
- ชื่อ-นามสกุล: ชื่อเต็มของผู้ถือหุ้น
- ที่อยู่: ที่อยู่ปัจจุบันของผู้ถือหุ้น
- สัญชาติ: สัญชาติของผู้ถือหุ้น
- เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง: เพื่อใช้ยืนยันตัวตน
- รายละเอียดเกี่ยวกับหุ้นที่ถือ:
- จำนวนหุ้น: ระบุจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถือครอง
- มูลค่าหุ้น: มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นแต่ละหุ้น
- ยอดเงินที่ชำระแล้ว: ระบุว่าผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้ชำระค่าหุ้นแล้วเป็นจำนวนเท่าใด
- วันที่มีการจัดทำบัญชีผู้ถือหุ้น: เพื่อระบุว่าข้อมูลในเอกสารนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่เท่าไหร่
ความสำคัญของ บอจ.5
บอจ.5 มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินงานของบริษัทเพราะ:
- เป็นหลักฐานทางกฎหมาย: บัญชีผู้ถือหุ้นเป็นหลักฐานอย่างเป็นทางการที่แสดงว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทและเป็นผู้มีสิทธิในทรัพย์สินและผลกำไรของบริษัท
- ใช้ในการประชุมผู้ถือหุ้น: ข้อมูลจากบัญชีผู้ถือหุ้นใช้ในการตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมประชุมและการออกเสียงของผู้ถือหุ้นแต่ละราย
- ใช้ประกอบการยื่นแบบภาษี: ข้อมูลเกี่ยวกับเงินปันผลที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นจะถูกอ้างอิงจากข้อมูลในบัญชีผู้ถือหุ้น
- สร้างความโปร่งใส: การมีบัญชีผู้ถือหุ้นที่ชัดเจนและเป็นปัจจุบันช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท ทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก เช่น ธนาคารหรือนักลงทุน สามารถตรวจสอบโครงสร้างการเป็นเจ้าของของบริษัทได้

AccProTax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี ประสบการณ์กว่า 25 ปี
“สะดวก รวดเร็ว เข้าใจ ให้คำปรึกษาเชิงรุก” คือสิ่งที่ AccProTax ให้ความสำคัญ
เพราะเราเข้าใจดีว่า “เรื่องภาษี” ไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ AccProTax จึงมุ่งเน้นการวางระบบบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาการตีความผิดพลาดและลดความเสี่ยงจากการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง ทีมงานของเรามีประสบการณ์กว่า 25 ปี ในการให้บริการทั้งการทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี และวางแผนภาษีอย่างรอบด้าน พร้อมคำปรึกษาที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง
ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้
AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร
ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท
ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/accprotax/
อีเมล: accprotax@gmail.com
โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax
เริ่มต้นจดทะเบียนบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด การจัดทำบัญชี วางแผนภาษี และการขอใบอนุญาตต่างๆ อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และใช้ระยะเวลานาน การมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานจดทะเบียนธุรกิจเป็นที่ปรึกษาและวางแผนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข้อมูลต่อทางการอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญของก้าวแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เรายินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พร้อมให้คำแนะนำในด้านการจดทะเบียน บริษัท(บจก.) ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.) อย่างครบวงจร รวมถึง จัดทำบัญชี และวางแผนภาษี (Tax Planning) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูล เรายินดีช่วยเหลือ ให้บริการที่รวดเร็ว ทันเวลา ราคาเหมาะสม คุยอย่างเป็นกันเอง ยินดีให้บริการอย่างเต็มที่ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี
กรุณากรอกข้อมูล โดยผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับ ให้คำปรึกษาที่ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็ว