ภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายได้
สวัสดีค่ะ… วันนี้ Accprotax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี วางระบบบัญชี ครบวงจร จะมาแนะนำให้รู้จักภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1 ภาษีซื้อสำหรับค่ารับรอง
ภาษีซื้อที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการรับรองต่างๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่ามหรสพ (เช่น ค่าตั๋วดูหนังหรือละคร) ค่าใช้จ่ายเพื่อการกีฬา (เช่น ค่าสมาชิกฟิตเนส) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน รวมถึงค่าสิ่งของหรือประโยชน์อื่นที่มอบให้แก่บุคคลที่ได้รับการรับรองหรือบริการ เช่น การมอบของขวัญในงานเลี้ยงรับรอง หรือการจ่ายค่าสมาชิกสโมสรให้กับลูกค้า
2 ภาษีซื้อสำหรับรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน
รวมถึงภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือการรับโอนรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน รวมถึงการซื้อสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เหล่านี้ เช่น ภาษีซื้อที่เกิดจากการซ่อมบำรุงรถยนต์ การซื้อยางรถยนต์ หรือการจ่ายค่าน้ำมัน
3. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีอย่างย่อ
ตามมาตรา 86/6 และมาตรา 86/7 เนื่องจากใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่ระบุชื่อผู้ซื้อ ทำให้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการซื้อของกิจการเรา จึงไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถลงเป็นรายจ่ายของกิจการได้ เช่น เมื่อซื้ออาหารสำหรับพนักงานจากร้านสะดวกซื้อและได้ใบกำกับภาษีอย่างย่อมา
4. ภาษีสำหรับทรัพย์สินหรือรายจ่ายในกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
เช่น กิจการที่ยังไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ได้ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งในกรณีนี้ ภาษีซื้อที่เกิดขึ้นจะไม่สามารถขอคืนได้เนื่องจากกิจการไม่อยู่ภายใต้ภาษีมูลค่าเพิ่ม
5. ภาษีซื้อจากการเฉลี่ยในส่วนที่เป็นของกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ซึ่งได้คำนวณตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ประกาศโดยอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งในกรณีที่กิจการมีทั้งรายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและรายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีซื้อจะต้องถูกเฉลี่ยตามสัดส่วนของรายได้ทั้งสองประเภท
6. ภาษีซื้อสำหรับสินค้าหรือบริการที่ใช้ในกิจการทั้งที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
หากกิจการมีรายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 90% และผู้ประกอบการเลือกที่จะไม่เฉลี่ยภาษีซื้อ ภาษีซื้อทั้งหมดจะถูกถือเป็นรายจ่ายได้
7. ภาษีซื้อสำหรับการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์
ที่ใช้ในกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และภายใน 3 ปีนับแต่เดือนที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ ได้ขายหรือให้เช่าหรือนำไปใช้ในกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีซื้อสำหรับการก่อสร้างนี้จะถือเป็นรายจ่ายได้
8. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
กรณีที่รายการ “ใบกำกับภาษี” ไม่ได้ตีพิมพ์หรือจัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 86/4(1) แห่งประมวลรัษฎากร ใบกำกับภาษีดังกล่าวจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้
9. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
กรณีที่รายการ “ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบกำกับภาษี” ไม่ได้ตีพิมพ์หรือจัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 86/4(2) แห่งประมวลรัษฎากร ใบกำกับภาษีดังกล่าวจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้
10. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
กรณีที่ใบกำกับภาษีไม่ใช่เอกสารฉบับแรก และรายการ “เอกสารออกเป็นชุด” ไม่ได้ตีพิมพ์หรือจัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 86/4(8) แห่งประมวลรัษฎากร ใบกำกับภาษีดังกล่าวจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้
11. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
ของสำนักงานใหญ่ที่สาขานำไปออกโดยไม่มีรายการ “สาขาที่ออกใบกำกับภาษีคือ…” ใบกำกับภาษีดังกล่าวจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้
12. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ที่ออกโดยผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน โดยไม่มีรายการ “เลขทะเบียนรถยนต์” ใบกำกับภาษีดังกล่าวจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้
13. ภาษีซื้อตามสำเนาใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
เว้นแต่ใบกำกับภาษีที่ไม่ใช่ฉบับแรกซึ่งมีรายการ “เอกสารออกเป็นชุด” ใบกำกับภาษีดังกล่าวจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้ แต่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้
14. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่รายการในใบกำกับภาษีได้ถูกแก้ไข
เว้นแต่รายการดังต่อไปนี้
- การแก้ไขที่อยู่ของผู้ออกใบกำกับภาษี เนื่องจากทางราชการได้ประกาศเปลี่ยนแปลงเลขที่ ถนน หมู่บ้าน ตำบลหรือแขวง อำเภอหรือเขต หรือจังหวัด โดยลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข หรือประทับด้วยตรายางภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ทางราชการประกาศเปลี่ยนแปลง
- การแก้ไขเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบกำกับภาษี โดยลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข หรือประทับตรายางภายใน 1 ปี นับแต่วันที่กรมสรรพากรได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงรายการดังกล่าวใหม่