ภ.ง.ด.54 และ ภ.พ.36 คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภ.ง.ด. 54 คือ แบบยื่นรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ใช้สำหรับกรณีพิเศษตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 และมาตรา 70 ทวิ กล่าวคือเป็นแบบที่ใช้สำหรับ นิติบุคคลหรือบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและไม่ได้เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้จากประเทศไทย ผู้ที่จ่ายเงินได้ในไทยจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งกรมสรรพากรด้วยแบบ ภ.ง.ด. 54 ภายใน 7 วันนับจากวันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน

ภ.ง.ด.54 และ ภ.พ.36 คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
ภ.ง.ด.54 และ ภ.พ.36 คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

เงินได้พึงประเมินที่เกี่ยวข้อง

ภ.ง.ด. 54 ครอบคลุมเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตาม มาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้:

  • มาตรา 40(2) เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้: เช่น ค่าธรรมเนียม, ค่านายหน้า, เบี้ยประชุม, โบนัส หรือประโยชน์ใดๆ ที่ได้จากการทำงานให้บริษัทในไทย
  • มาตรา 40(3) ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น: เช่น ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์, ค่าสิทธิในเครื่องหมายการค้า หรือค่าสิทธิบัตร
  • มาตรา 40(4) เงินได้ที่เป็นดอกเบี้ยและเงินปันผล:
    • ดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยพันธบัตร, ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม
    • เงินปันผล: เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้จากบริษัทในไทย
  • มาตรา 40(5) เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน: เช่น ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
  • มาตรา 40(6) เงินได้จากวิชาชีพอิสระ: เช่น ค่าแพทย์, ค่าวิศวกร, ค่านักกฎหมาย, ค่าสถาปนิก ที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างหรือทำงานให้ในประเทศไทย

นอกจากนี้ ภ.ง.ด. 54 ยังใช้สำหรับการ จำหน่ายเงินกำไรตามมาตรา 70 ทวิ ซึ่งหมายถึงการโอนเงินกำไรที่กันไว้หรือที่ถือว่าเป็นเงินกำไรจากบริษัทในไทยออกไปต่างประเทศ ผู้ที่มีหน้าที่โอนเงินกำไรนี้จะต้องหักภาษีจากยอดเงินกำไรนั้นและนำส่งด้วยแบบ ภ.ง.ด. 54 ด้วยเช่นกันค่ะ


ภ.พ. 36 คือ แบบยื่นรายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการในประเทศไทยมีหน้าที่ต้องยื่นและนำส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณีที่ จ่ายค่าสินค้าหรือค่าบริการให้กับผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร และไม่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย . แบบฟอร์มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ เพราะเป็นวิธีที่รัฐบาลไทยใช้ในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกรรมข้ามพรมแดน


ภ.พ. 36 เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง?

ภ.พ. 36 จะถูกนำมาใช้เมื่อผู้ประกอบการไทยได้จ่ายเงินเพื่อ:

  1. ซื้อสินค้าหรือบริการ: ที่มีการส่งมอบหรือให้บริการในประเทศไทย
  2. โอนเงินค่าบริการ: ที่ใช้บริการในประเทศไทยแต่ผู้ให้บริการตั้งอยู่นอกราชอาณาจักร
  3. โอนเงินค่าสิทธิ: เช่น ค่าลิขสิทธิ์ ค่าเครื่องหมายการค้า หรือค่าสิทธิบัตรที่ผู้รับสิทธิอยู่นอกราชอาณาจักร

ใครมีหน้าที่ต้องยื่น ภ.พ. 36?

ผู้มีหน้าที่ยื่นและนำส่งแบบ ภ.พ. 36 คือ ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วในประเทศไทย และมีการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการที่อยู่นอกประเทศไทย

ตัวอย่างการใช้ ภ.พ. 36

  • บริษัท A ในไทย (จดทะเบียน VAT) ซื้อซอฟต์แวร์จากบริษัท B ในสหรัฐอเมริกา (ไม่ได้จดทะเบียน VAT ในไทย): เมื่อบริษัท A จ่ายค่าซอฟต์แวร์ จะต้องยื่น ภ.พ. 36 เพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของมูลค่าซอฟต์แวร์ให้กรมสรรพากร
  • โรงแรมในไทยจ่ายค่าโฆษณาให้กับ Google (ตั้งอยู่นอกประเทศ): โรงแรมจะต้องยื่น ภ.พ. 36 และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กรมสรรพากร

สรุป: ภ.พ. 36 เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับธุรกรรมข้ามพรมแดน ช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศได้อย่างครบถ้วนและเป็นธรรมมากขึ้นค่ะ

ความหมายของแบบภ.ง.ด.54 และภ.พ.36
ความหมายของแบบภ.ง.ด.54 และภ.พ.36

แบบ ภ.ง.ด. 54: อัตราภาษี

ภ.ง.ด. 54 เป็นแบบสำหรับยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและไม่มีการประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้จากประเทศไทย ผู้จ่ายเงินได้ในไทยจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งให้กรมสรรพากร อัตราภาษีจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเงินได้พึงประเมิน:

  1. อัตราภาษี 15%: สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) ถึง 40 (6) ได้แก่:
    • มาตรา 40(2): ค่าธรรมเนียม, ค่านายหน้า
    • มาตรา 40(3): ค่าลิขสิทธิ์, ค่าสิทธิในเครื่องหมายการค้า
    • มาตรา 40(4) (ยกเว้นเงินปันผล): ดอกเบี้ย
    • มาตรา 40(5): ค่าเช่าทรัพย์สินในประเทศไทย
    • มาตรา 40(6): ค่าวิชาชีพอิสระ (เช่น ค่าทนาย, ค่าที่ปรึกษา)
  2. อัตราภาษี 10%: สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) เฉพาะที่เป็น เงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งกำไรที่จ่ายให้บริษัทที่อยู่นอกประเทศไทย
  3. อัตราภาษี 10%: สำหรับเงินได้ตามมาตรา 70 ทวิ ซึ่งเป็นการ จำหน่ายเงินกำไร ออกจากประเทศไทย

แบบ ภ.พ. 36: อัตราภาษี

ภ.พ. 36 เป็นแบบสำหรับนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ผู้ประกอบการในไทยมีหน้าที่ต้องยื่นและนำส่งแทนผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่ไม่ได้เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย

  • อัตราภาษี 7%: แบบ ภ.พ. 36 จะใช้อัตราภาษี 7% ซึ่งเป็นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้ในปัจจุบันสำหรับมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ซื้อจากผู้ประกอบการในต่างประเทศ

ข้อสังเกต:

  • ภ.ง.ด. 54 เป็นภาษี เงินได้นิติบุคคล ที่หัก ณ ที่จ่าย
  • ภ.พ. 36 เป็นภาษี มูลค่าเพิ่ม ที่ผู้ประกอบการในไทยมีหน้าที่ต้องนำส่งแทนผู้ขายที่ไม่ได้จดทะเบียน VAT ในไทย

ดังนั้น ทั้งสองแบบฟอร์มจึงมีวัตถุประสงค์และอัตราภาษีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามประเภทของภาษีที่เกี่ยวข้องค่ะ

อัตราภาษีภ.ง.ด.54 และภ.พ.36 มีอัตราภาษีอย่างไร
อัตราภาษีภ.ง.ด.54 และภ.พ.36 มีอัตราภาษีอย่างไร

ตัวอย่าง: ในกรณีที่บริษัทในประเทศไทยเช่าโกดังกับบริษัทที่อยู่ต่างประเทศ จำนวน 100,000 บาท การคำนวณภาษี ภ.ง.ด. 54 จะมีรายละเอียดดังนี้

การคำนวณภาษี

  • มาตราที่เกี่ยวข้อง: เงินค่าเช่าโกดังนี้ถือเป็น เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากเป็นเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินในประเทศไทย
  • อัตราภาษี: อัตราภาษีที่ใช้สำหรับเงินได้ประเภทนี้คือ 15% ตามหลักเกณฑ์ของ ภ.ง.ด. 54
  • ภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย:

    ดังนั้น บริษัทในไทยจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายจำนวน 15,000 บาท


การนำส่งแบบ ภ.ง.ด. 54

บริษัทในประเทศไทยมีหน้าที่นำส่งแบบ ภ.ง.ด. 54 และเงินภาษีที่หักไว้ให้กับกรมสรรพากร ภายใน 7 วันนับจากวันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินค่าเช่า  ตัวอย่างเช่น หากบริษัทจ่ายค่าเช่าในวันที่ 15 กันยายน ก็จะต้องนำส่งแบบ ภ.ง.ด. 54 ภายในวันที่ 7 ตุลาคมค่ะ


ตัวอย่าง: การยิงโฆษณาผ่าน Facebook ถือเป็นการใช้บริการจากต่างประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการในไทยมีหน้าที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แทนผู้ให้บริการด้วยแบบ ภ.พ. 36

การคำนวณภาษี

  • อัตราภาษี: การยื่นแบบ ภ.พ. 36 ใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องนำส่ง:

    ดังนั้น บริษัทที่ยิงโฆษณาจะต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 7,000 บาท ให้กับกรมสรรพากร


การนำส่งแบบ ภ.พ. 36

ผู้ประกอบการในประเทศไทยมีหน้าที่นำส่งแบบ ภ.พ. 36 และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณได้ ภายใน 7 วันนับจากวันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน . ตัวอย่างเช่น หากบริษัทจ่ายค่าโฆษณาในวันที่ 15 กันยายน ก็จะต้องนำส่งแบบ ภ.พ. 36 ภายในวันที่ 7 ตุลาคม เช่นเดียวกับการนำส่ง ภ.ง.ด. 54

ตัวอย่างการยื่นแบบภ.ง.ด.54 และภ.พ.36
ตัวอย่างการยื่นแบบภ.ง.ด.54 และภ.พ.36
แบบแสดงรายการภ.ง.ด.54 และภ.พ.36
แบบแสดงรายการภ.ง.ด.54 และภ.พ.36

AccProTax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี ประสบการณ์กว่า 25 ปี

วางแผนภาษีกับ AccProTax

“สะดวก รวดเร็ว เข้าใจ ให้คำปรึกษาเชิงรุก”  คือสิ่งที่ AccProTax ให้ความสำคัญ

เพราะเราเข้าใจดีว่า “เรื่องภาษี” ไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ AccProTax จึงมุ่งเน้นการวางระบบบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาการตีความผิดพลาดและลดความเสี่ยงจากการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง ทีมงานของเรามีประสบการณ์กว่า 25 ปี ในการให้บริการทั้งการทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี และวางแผนภาษีอย่างรอบด้าน พร้อมคำปรึกษาที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง

ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้

AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร

✅ ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
✅ มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
✅ ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท

✅ ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
✅ ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน

เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/accprotax/

📧 อีเมล: accprotax@gmail.com
📞 โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax

เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ
บริการประทับใจ ด้วยทีมงานมืออาชีพ

เริ่มต้นจดทะเบียนบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด การจัดทำบัญชี วางแผนภาษี และการขอใบอนุญาตต่างๆ อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และใช้ระยะเวลานาน การมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานจดทะเบียนธุรกิจเป็นที่ปรึกษาและวางแผนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข้อมูลต่อทางการอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญของก้าวแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เรายินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พร้อมให้คำแนะนำในด้านการจดทะเบียน บริษัท(บจก.) ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.) อย่างครบวงจร รวมถึง จัดทำบัญชี และวางแผนภาษี (Tax Planning) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูล เรายินดีช่วยเหลือ ให้บริการที่รวดเร็ว ทันเวลา ราคาเหมาะสม คุยอย่างเป็นกันเอง ยินดีให้บริการอย่างเต็มที่ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี

กรุณากรอกข้อมูล โดยผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับ ให้คำปรึกษาที่ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็ว

บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่