สาเหตุขายได้ดี แต่เงินสดไม่มี

สาเหตุยอดขายดี แต่เงินสดไม่มีในกิจการกลับไม่พอใช้ เป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะไม่มีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้อง แต่ยังมีสาเหตุเชิงลึกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกระแสเงินสดโดยตรง

ทำไมการไม่มีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องจึงทำให้เงินสดขาดมือ?

การไม่มีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องเหมือนกับการที่คุณขับรถโดยไม่มีมาตรวัดความเร็วและน้ำมัน คุณจะรู้ว่าคุณกำลังเคลื่อนที่ (ยอดขายดี) แต่คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้จ่ายเชื้อเพลิงไปเท่าไร (ค่าใช้จ่าย) และมีเชื้อเพลิงเหลืออยู่แค่ไหน (เงินสดคงเหลือ)

  • ไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง: หากไม่ได้บันทึกค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างถูกต้อง คุณอาจคิดว่ากำไรของคุณสูงกว่าที่เป็นจริง ทำให้คุณใช้จ่ายเกินตัว
  • ไม่เห็นภาพรวม: การไม่บันทึกบัญชีทำให้คุณมองไม่เห็นภาพรวมของสุขภาพทางการเงินของกิจการ คุณอาจไม่รู้ว่าเงินไปอยู่ตรงไหนบ้าง และไม่สามารถวางแผนการใช้จ่ายในอนาคตได้

สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายดีแต่เงินสดขาดมือ

นอกเหนือจากการไม่มีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เงินสดในกิจการไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน

1. การจัดการหนี้สินและลูกหนี้การค้าที่ไม่ดี

  • หนี้สินที่ต้องชำระทันที: กิจการอาจมีภาระหนี้สินระยะสั้นที่ต้องชำระคืนในจำนวนมาก ทำให้เงินสดที่เข้ามาถูกนำไปใช้หนี้ทันทีจนหมด
  • ลูกหนี้การค้าที่เก็บเงินไม่ได้: การขายสินค้าหรือบริการแบบเครดิตจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกค้าจ่ายเงินล่าช้าหรือไม่จ่ายเลย ทำให้รายได้ที่ควรจะเป็นเงินสดกลับไปอยู่ในรูปของ “ลูกหนี้” แทน

2. ต้นทุนจม (Sunk Cost) ที่ไม่ถูกบริหารจัดการ

  • สินค้าคงคลังที่มากเกินไป: การสต็อกสินค้าไว้จำนวนมาก ทำให้เงินสดถูกแช่แข็งอยู่ในรูปของสินค้าที่ยังขายไม่ได้ ซึ่งจะกลายเป็นต้นทุนจมถ้าสินค้าขายไม่ได้
  • การลงทุนในทรัพย์สินถาวรที่ไม่จำเป็น: การซื้อเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ทำให้เงินสดจำนวนมหาศาลถูกนำไปใช้ในสิ่งที่อาจสร้างรายได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

3. อัตรากำไรที่ต่ำกว่าที่คิด

  • ค่าใช้จ่ายแฝง: กิจการอาจมีค่าใช้จ่ายแฝงที่ไม่ถูกบันทึกอย่างถูกต้อง เช่น ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเครื่องจักร ค่าขนส่ง หรือค่าธรรมเนียมที่ซ่อนอยู่ ทำให้กำไรจากการขายจริง ๆ น้อยกว่าที่คาดไว้

4. การบริหารกระแสเงินสดที่ขาดประสิทธิภาพ

  • ไม่มีการวางแผนเงินสด: กิจการไม่ได้ทำงบประมาณกระแสเงินสด (Cash Flow Budgeting) ทำให้ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีเงินสดเข้ามาและออกไปเมื่อไหร่และจำนวนเท่าไหร่
  • ใช้เงินปะปนกับเงินส่วนตัว: เจ้าของกิจการใช้เงินจากบัญชีของกิจการปะปนกับเงินส่วนตัว ทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเงินที่ใช้จ่ายไปนั้นเป็นของธุรกิจหรือของส่วนตัว

ดังนั้น การขายได้ดีแต่ไม่มีเงินสด จึงไม่ใช่แค่ปัญหาของการไม่จดบันทึกบัญชี แต่เป็นปัญหาสุขภาพทางการเงินที่เกิดจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีในหลายๆ ด้าน การเริ่มต้นจากการบันทึกบัญชีอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณมองเห็นปัญหาเหล่านี้ได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถวางแผนและแก้ไขได้อย่างตรงจุดค่ะ

ทำไมการไม่มีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องจึงทำให้เงินสดขาดมือ?
ทำไมการไม่มีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องจึงทำให้เงินสดขาดมือ?

การที่กิจการขายสินค้าหรือบริการได้ดี แต่เงินสดในกิจการกลับไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักประการหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือ การไม่แยกกระเป๋าเงินระหว่างบัญชีส่วนตัวกับบัญการกิจการ . ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากการที่เจ้าของกิจการมีเจตนาทุจริต แต่ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่เข้าใจหลักการบริหารเงินอย่างถูกต้อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางการเงินของธุรกิจในหลายมิติ

ทำไมการไม่แยกกระเป๋าเงินจึงทำให้เงินสดขาดมือ?

การใช้เงินปะปนกันระหว่างกิจการและส่วนตัวเป็นเหมือนการที่คุณมีน้ำอยู่ในถังใบใหญ่ใบเดียวที่ไม่มีมาตรวัด คุณอาจจะตักน้ำออกไปใช้เรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าน้ำที่เหลืออยู่เป็นส่วนที่ต้องใช้สำหรับกิจการ หรือเป็นส่วนที่ใช้ได้สำหรับชีวิตประจำวัน เมื่อถึงเวลาที่กิจการต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสำคัญ เงินในถังก็อาจจะไม่พอ


ผลกระทบจากการไม่แยกกระเป๋าเงิน

  1. ไม่รู้สภาพคล่องที่แท้จริงของกิจการ: เมื่อเงินรายได้จากการขายถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวและนำไปใช้จ่ายส่วนตัวทันที เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายในครอบครัว เงินเหล่านั้นจะหายไปจากระบบบัญชีของกิจการโดยไม่มีการบันทึกที่ถูกต้อง ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าในแต่ละวัน กิจการมีเงินสดเหลืออยู่จริงเท่าไหร่ และจะพอสำหรับการชำระหนี้สินระยะสั้นหรือไม่
  2. รายจ่ายส่วนตัวถูกนำมาบันทึกเป็นรายจ่ายของกิจการ: บ่อยครั้งที่เจ้าของกิจการนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายส่วนตัวมาบันทึกรวมกับค่าใช้จ่ายของกิจการ เพื่อลดกำไรและภาษี ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายภาษี และยังทำให้ตัวเลขกำไรของกิจการสูงกว่าความเป็นจริง
  3. การตัดสินใจลงทุนผิดพลาด: เมื่อกิจการมีเงินในบัญชีรวมดูเหมือนเยอะ (เพราะเป็นเงินรวมทั้งของกิจการและของเจ้าของ) อาจทำให้เจ้าของตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่ไม่จำเป็น หรือลงทุนในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จริง เพราะคิดว่ามีเงินสดเหลือเฟือ เมื่อถึงเวลาต้องชำระค่าใช้จ่ายสำคัญของกิจการ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าวัตถุดิบ หรือค่าเช่าสำนักงาน เงินสดที่ถูกนำไปใช้ส่วนตัวหรือใช้ลงทุนผิดพลาดจะทำให้เกิดปัญหาทันที

วิธีแก้ไขและสร้างวินัยทางการเงิน

  • เปิดบัญชีธนาคารแยกกัน: สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเปิดบัญชีธนาคารสำหรับกิจการโดยเฉพาะ และบัญชีส่วนตัวอย่างชัดเจน
  • ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ถูกต้อง: บันทึกรายได้และรายจ่ายทั้งหมดของกิจการลงในสมุดบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถติดตามกระแสเงินสดได้อย่างแม่นยำ
  • จ่ายเงินเดือนให้ตัวเอง: เจ้าของควรจ่ายเงินเดือนให้ตัวเองเป็นจำนวนที่แน่นอนในแต่ละเดือน จากบัญชีกิจการเข้าบัญชีส่วนตัว เพื่อใช้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว การทำเช่นนี้จะช่วยให้เงินที่เข้าสู่บัญชีของกิจการไม่ถูกนำไปใช้ในเรื่องส่วนตัวโดยไม่ตั้งใจ
  • ตั้งงบประมาณและตรวจสอบเป็นประจำ: ควรมีการทำงบประมาณกระแสเงินสด และตรวจสอบยอดเงินในบัญชีของกิจการเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่ากิจการมีเงินสดเพียงพอสำหรับการดำเนินงานและชำระหนี้สิน

การแยกกระเป๋าเงินอย่างชัดเจนไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของวินัยทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับกิจการ ซึ่งจะช่วยให้กิจการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวค่ะ

การไม่แยกกระเป๋าเงินจึงทำให้เงินสดขาดมือ
การไม่แยกกระเป๋าเงินจึงทำให้เงินสดขาดมือ

การที่ยอดขายดีแต่เงินสดในกิจการขาดมือ เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและเกิดจากหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุหลักที่หลายธุรกิจมักมองข้ามคือ การหลงดีใจไปกับยอดขายที่สูงจนเกินไป ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระแสเงินสดของกิจการ

สาเหตุและผลกระทบของการหลงดีใจกับยอดขาย

การมียอดขายที่สูงนั้นเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจ แต่ไม่ใช่ตัวชี้วัดสุขภาพทางการเงินทั้งหมด การหลงดีใจกับตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เจ้าของกิจการมองข้ามประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้


1. เข้าใจผิดว่า “ยอดขาย” เท่ากับ “เงินสด”

ยอดขายในงบการเงินไม่ได้หมายถึงเงินสดที่ได้รับมาทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่มีการขายแบบเครดิต ยอดขายที่สูงอาจหมายถึงว่ากิจการมีลูกหนี้การค้าจำนวนมากที่ยังไม่ได้ชำระเงิน แทนที่จะเป็นเงินสดในบัญชี เมื่อเจ้าของกิจการเห็นตัวเลขยอดขายในรายงานที่สูงลิ่ว ก็อาจคิดว่ามีเงินสดเหลือเฟือและนำไปใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การลงทุนในสินค้าคงคลังที่มากเกินไป หรือการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ประเมินว่าเงินสดที่แท้จริงที่พร้อมใช้งานมีเท่าไหร่


2. ใช้จ่ายเกินตัวจากความรู้สึกรวย

เมื่อยอดขายดี เจ้าของกิจการมักมีความรู้สึก “ร่ำรวย” และมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งในส่วนของกิจการและส่วนตัว เช่น การจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงานใหม่ที่ไม่จำเป็น การเพิ่มค่าใช้จ่ายการตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือการซื้อทรัพย์สินถาวรราคาแพงโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า การใช้จ่ายเหล่านี้ทำให้เงินสดที่ควรจะนำไปใช้ในการดำเนินงานหรือสำรองไว้สำหรับช่วงเวลาที่ยอดขายชะลอตัวหมดไปอย่างรวดเร็ว


3. บริหารสต็อกสินค้าผิดพลาด

ยอดขายที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความต้องการสต็อกสินค้าที่มากขึ้น เจ้าของกิจการจึงอาจตัดสินใจสต็อกสินค้าจำนวนมหาศาลเพื่อรองรับยอดขายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เงินสดจำนวนมากจึงถูก “แช่แข็ง” อยู่ในรูปของสินค้าคงคลัง ซึ่งหากสินค้าเหล่านั้นขายไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ (เช่น ยอดขายที่สูงเป็นเพียงช่วงสั้นๆ จากโปรโมชั่น) ก็จะกลายเป็นต้นทุนจมที่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกิจการอย่างรุนแรง


วิธีแก้ไขและสร้างวินัยทางการเงิน

  • แยก “ยอดขาย” ออกจาก “เงินสด”: ทำความเข้าใจว่ายอดขายและเงินสดเป็นคนละส่วนกัน ให้ความสำคัญกับการจัดทำรายงานกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) ควบคู่ไปกับงบกำไรขาดทุน เพื่อให้เห็นภาพรวมของเงินสดที่เข้าและออกจากกิจการอย่างแท้จริง
  • สร้างแผนงบประมาณที่รัดกุม: วางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือนอย่างรอบคอบ ไม่ว่ายอดขายจะดีแค่ไหนก็ตาม เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายและป้องกันการใช้เงินเกินตัว
  • บริหารลูกหนี้การค้า: กำหนดนโยบายการให้เครดิตที่ชัดเจน และติดตามการชำระเงินจากลูกหนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเงินสดจากการขายจะไหลเข้าสู่กิจการตามกำหนด
  • กันเงินสำรองฉุกเฉิน: ควรกำหนดสัดส่วนของเงินสดที่กันไว้เป็นเงินสำรองสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือช่วงที่ยอดขายลดลง เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

การมียอดขายที่ดีเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ความสำเร็จที่แท้จริงของธุรกิจวัดจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนรายงานยอดขายค่ะ

การหลงดีใจไปกับยอดขายที่สูงจนเกินไป
การหลงดีใจไปกับยอดขายที่สูงจนเกินไป

การที่กิจการมียอดขายดีแต่กลับไม่มีเงินสดหมุนเวียนนั้นมีหลายสาเหตุ แต่ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือ การไม่รู้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่แท้จริง ซึ่งทำให้กิจการเข้าใจผิดว่ามีกำไรมากเกินไป และนำไปสู่การตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาด

สาเหตุและผลกระทบของการไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง

การไม่สามารถระบุต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ ทำให้กิจการไม่สามารถประเมินกำไรที่แท้จริงจากการขายได้ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาดังนี้


1. การตั้งราคาขายที่ผิดพลาด

เมื่อไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าหรือบริการทั้งหมด กิจการอาจตั้งราคาขายที่ต่ำเกินไปเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแต่กำไรต่อหน่วยลดลง หากราคาขายต่ำกว่าต้นทุนรวมทั้งหมด กิจการก็จะยิ่งขาดทุนทุกครั้งที่มีการขาย แม้จะมีลูกค้าจำนวนมากก็ตาม ซึ่งจะทำให้เงินสดค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง


2. ต้นทุนแฝงที่ไม่ได้ถูกนำมาคำนวณ

ต้นทุนแฝง คือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการซื้อวัตถุดิบโดยตรง แต่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในภาพรวม เช่น:

  • ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: เงินเดือนพนักงาน, ค่าเช่าสำนักงาน, ค่าน้ำ ค่าไฟ
  • ค่าใช้จ่ายในการขาย: ค่าโฆษณา, ค่าคอมมิชชั่น, ค่าขนส่ง
  • ค่าใช้จ่ายทางการเงิน: ดอกเบี้ยจากการกู้ยืม

หากไม่นำค่าใช้จ่ายเหล่านี้มาคำนวณรวมเป็นต้นทุนทั้งหมด กิจการจะประเมินกำไรจากการขายสูงเกินจริง ทำให้มีการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเกินตัว จนเงินสดในบัญชีร่อยหรอลงไป


3. การบริหารสินค้าคงคลังที่ผิดพลาด

การไม่รู้ต้นทุนสินค้าที่แท้จริงทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้มีการสั่งซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าเข้ามามากเกินไปในราคาที่ไม่เหมาะสม เงินสดจำนวนมากจึงถูกนำไปจมอยู่ในสินค้าคงคลังที่อาจขายไม่ได้หรือขายได้ช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกิจการโดยตรง


4. การตัดสินใจที่ไร้ประสิทธิภาพ

เมื่อไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง เจ้าของกิจการอาจตัดสินใจโดยอาศัยเพียงแค่ความรู้สึกจากตัวเลขยอดขายที่สูง เช่น:

  • การเพิ่มค่าใช้จ่ายการตลาด: ลงทุนเงินจำนวนมากไปกับการโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่ไม่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า (Return on Investment – ROI)
  • การขยายธุรกิจเร็วเกินไป: การตัดสินใจเปิดสาขาใหม่หรือขยายกิจการโดยไม่มีเงินสดสำรองที่เพียงพอ ทำให้เมื่อเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด กิจการก็จะประสบปัญหาสภาพคล่องทันที

วิธีแก้ไขเพื่อสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง

  • จัดทำบัญชีต้นทุน: บันทึกและแยกประเภทค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างละเอียด ทั้งต้นทุนทางตรง (ค่าวัตถุดิบ) และต้นทุนทางอ้อม (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) เพื่อให้เห็นภาพรวมของต้นทุนที่แท้จริง
  • วิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-Even Point): คำนวณยอดขายที่ต้องทำได้เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อให้รู้ว่าควรตั้งราคาขายและบริหารค่าใช้จ่ายอย่างไร
  • จัดทำงบกระแสเงินสด: ให้ความสำคัญกับงบกระแสเงินสด เพื่อติดตามการไหลเวียนของเงินเข้าและออกจากกิจการ และวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรู้ต้นทุนที่แท้จริงไม่ได้เป็นแค่เรื่องทางบัญชี แต่เป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจทางธุรกิจที่จะทำให้กิจการเติบโตได้อย่างยั่งยืนค่ะ

การไม่รู้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่แท้จริง
การไม่รู้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่แท้จริง

ยอดขายดีแต่ไม่มีเงินสดในกิจการเป็นปัญหาที่ธุรกิจหลายแห่งต้องเผชิญ สาเหตุหลักประการหนึ่งคือ เงินจมไปกับสินค้าคงเหลือและลูกหนี้การค้ามากเกินไป ซึ่งหมายความว่าแม้คุณจะขายสินค้าได้ แต่เงินสดจากการขายนั้นไม่ได้ไหลกลับเข้ามาในกระเป๋าของกิจการอย่างรวดเร็วพอที่จะใช้จ่ายได้ทันที

เงินจมกับสินค้าคงเหลือ

สินค้าคงเหลือ (Inventory) คือสินค้าที่คุณซื้อมาเพื่อขายหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า การที่เงินจมกับสินค้าคงเหลือมากเกินไปหมายถึง:

  • สต็อกสินค้าเกินความจำเป็น: คุณสั่งซื้อสินค้ามามากเกินไปเพื่อรองรับยอดขายที่คาดว่าจะสูงขึ้น แต่กลับไม่ได้ขายออกไปทั้งหมด ทำให้เงินทุนจำนวนมหาศาลถูกแช่แข็งอยู่ในรูปของสินค้าที่ไม่ได้สร้างรายได้ในทันที
  • สินค้าขายไม่ออกหรือล้าสมัย: สินค้าที่สต็อกไว้นานเกินไปอาจกลายเป็นสินค้าที่ไม่มีใครต้องการ ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะกลายเป็นต้นทุนจม (Sunk Cost) ของกิจการ

เงินจมกับลูกหนี้การค้า

ลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable) คือเงินที่ลูกค้าค้างชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ซื้อไปจากคุณ การที่เงินจมกับลูกหนี้การค้ามากเกินไปหมายถึง:

  • การให้เครดิตการค้าที่ยาวเกินไป: คุณให้ลูกค้าซื้อสินค้าไปก่อนและจ่ายเงินภายหลังในระยะเวลาที่นานเกินไป เช่น 30-60 วัน ทำให้เงินจากการขายไม่ได้กลับเข้ามาในกิจการทันทีที่คุณต้องการใช้จ่าย
  • ลูกค้าจ่ายเงินช้าหรือไม่จ่าย: แม้จะมียอดขายเกิดขึ้น แต่หากลูกค้าไม่จ่ายเงินตามกำหนด หรือหนีหนี้ไปเลย เงินสดที่คุณคาดว่าจะได้รับก็จะไม่เข้าสู่กิจการ ทำให้งบการเงินดูดี แต่สภาพคล่องติดลบ

ทำไมเงินจมถึงเป็นปัญหา?

การที่เงินจมในสินค้าคงเหลือและลูกหนี้การค้าจะทำให้กิจการประสบปัญหาด้าน กระแสเงินสด (Cash Flow) . แม้ในงบกำไรขาดทุนจะแสดงตัวเลขยอดขายและกำไรที่สูง แต่เงินสดที่แท้จริงที่พร้อมจะนำไปใช้ในการดำเนินงานกลับไม่มี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงาน, หรือค่าวัตถุดิบ ทำให้กิจการอาจถึงขั้นล้มละลายได้ แม้จะมียอดขายที่สูงก็ตามค่ะ

เงินจมไปกับสินค้าคงเหลือและลูกหนี้การค้ามากเกินไป
เงินจมไปกับสินค้าคงเหลือและลูกหนี้การค้ามากเกินไป

AccProTax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี ประสบการณ์กว่า 25 ปี

วางแผนภาษีกับ AccProTax

“สะดวก รวดเร็ว เข้าใจ ให้คำปรึกษาเชิงรุก”  คือสิ่งที่ AccProTax ให้ความสำคัญ

เพราะเราเข้าใจดีว่า “เรื่องภาษี” ไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ AccProTax จึงมุ่งเน้นการวางระบบบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาการตีความผิดพลาดและลดความเสี่ยงจากการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง ทีมงานของเรามีประสบการณ์กว่า 25 ปี ในการให้บริการทั้งการทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี และวางแผนภาษีอย่างรอบด้าน พร้อมคำปรึกษาที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง

ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้

AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร

✅ ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
✅ มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
✅ ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท

✅ ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
✅ ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน

เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/accprotax/

📧 อีเมล: accprotax@gmail.com
📞 โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax

เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ
บริการประทับใจ ด้วยทีมงานมืออาชีพ

เริ่มต้นจดทะเบียนบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด การจัดทำบัญชี วางแผนภาษี และการขอใบอนุญาตต่างๆ อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และใช้ระยะเวลานาน การมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานจดทะเบียนธุรกิจเป็นที่ปรึกษาและวางแผนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข้อมูลต่อทางการอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญของก้าวแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เรายินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พร้อมให้คำแนะนำในด้านการจดทะเบียน บริษัท(บจก.) ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.) อย่างครบวงจร รวมถึง จัดทำบัญชี และวางแผนภาษี (Tax Planning) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูล เรายินดีช่วยเหลือ ให้บริการที่รวดเร็ว ทันเวลา ราคาเหมาะสม คุยอย่างเป็นกันเอง ยินดีให้บริการอย่างเต็มที่ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี

กรุณากรอกข้อมูล โดยผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับ ให้คำปรึกษาที่ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็ว

บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่