เปรียบเทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล!

ในระบบภาษีของประเทศไทย ภาษีเงินได้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งมีอัตราและหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

1. อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เป็นภาษีที่จัดเก็บจากเงินได้ของบุคคลทั่วไป หรือห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล โดยคำนวณตามอัตราภาษีแบบก้าวหน้า (Progressive Rate) ซึ่งหมายถึงยิ่งมีเงินได้สุทธิมาก อัตราภาษีก็จะยิ่งสูงขึ้น

เงินได้สุทธิ (บาท)

อัตราภาษี (%)

ภาษีสะสมสูงสุดในขั้น (บาท)

0 – 150,000 0 0
150,001 – 300,000 5 7,500
300,001 – 500,000 10 27,500
500,001 – 750,000 15 65,000
750,001 – 1,000,000 20 115,000
1,000,001 – 2,000,000 25 365,000
2,000,001 – 5,000,000 30 1,265,000
5,000,001 ขึ้นไป 35

2. อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล

เป็นภาษีที่จัดเก็บจากเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการว่าเป็น SME หรือ Non-SME

ก. อัตราภาษีสำหรับ SME กิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้วยการใช้อัตราภาษีที่ต่ำกว่า เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กำไรสุทธิ (บาท)

อัตราภาษี (%)

0 – 300,000 0 (ยกเว้นภาษี)
300,001 – 3,000,000 15
มากกว่า 3,000,000 20

ข. อัตราภาษีสำหรับ Non-SME (กิจการทั่วไป) เป็นอัตราภาษีมาตรฐานที่ใช้กับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่เข้าข่ายเป็น SME

  • อัตราภาษี: ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ
  • หมายเหตุ: อัตรานี้ใช้กับกิจการที่มีกำไรตั้งแต่บาทแรก โดยไม่มีการยกเว้นภาษีในส่วนของกำไร 300,000 บาทแรก

เงื่อนไขในการเป็น SME ตามกฎหมายภาษี

เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในฐานะ SME บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องเข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งแตกต่างจากนิยามของ SME โดยทั่วไป

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องเข้าข่ายทั้ง 2 ข้อ คือ:

  1. ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีต้องไม่เกิน 5 ล้านบาท
    • ทุนจดทะเบียนนี้หมายถึงทุนที่ชำระแล้วจริง ๆ ไม่ใช่แค่ทุนที่จดทะเบียนไว้
  2. รายได้จากการขายสินค้าและให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีต้องไม่เกิน 30 ล้านบาท
    • รายได้นี้คือรายได้รวมทั้งหมดของกิจการในรอบบัญชีนั้น ๆ

ข้อควรทราบ:

  • หากกิจการเข้าข่ายเป็น SME ตามเงื่อนไขทั้งสองข้อ ก็จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีสำหรับกำไร 300,000 บาทแรก และเสียภาษีในอัตรา 15% สำหรับกำไรส่วนที่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท
  • หากกิจการมีรายได้เกิน 30 ล้านบาท หรือมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเกิน 5 ล้านบาท ณ สิ้นรอบบัญชี จะต้องเสียภาษีในอัตราปกติสำหรับ Non-SME ที่ 20% สำหรับกำไรทั้งหมดในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น

สรุปความแตกต่างที่สำคัญ

รายละเอียด

บุคคลธรรมดา

นิติบุคคล SME

นิติบุคคล Non-SME

ฐานการคำนวณ เงินได้สุทธิ (หักค่าใช้จ่าย/ค่าลดหย่อน) กำไรสุทธิ กำไรสุทธิ
อัตราภาษี อัตราก้าวหน้า 0% – 35% 0% (กำไร 3 แสนแรก) และ 15% – 20% 20% (อัตราคงที่)
สิทธิประโยชน์ มีค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว ยกเว้นภาษีกำไร 3 แสนบาทแรก ไม่มีสิทธิยกเว้นภาษี
เงื่อนไข ทุนไม่เกิน 5 ล้าน และ รายได้ไม่เกิน 30 ล้าน ไม่เข้าเงื่อนไข SME
เปรียบเทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา-นิติบุคคล!
เปรียบเทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา-นิติบุคคล!

ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้

AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร

✅ ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
✅ มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
✅ ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท

✅ ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
✅ ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
📧 อีเมล: accprotax@gmail.com
📞 โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax

บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่