“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจบริการต่อใบอนุญาตทำงาน รับทำเอกสารต่ออายุวีซ่า ตัดสินใจเปิดธุรกิจ ขยายกิจการ มอบความไว้วางใจให้ทีมงานแอคโปรแท็ค (AccProTax) ดูแลให้คำปรึกษา

ด้านการวางแผนภาษี บริหารต้นทุน และบัญชี เพื่อได้กำไรสูงสุด

ขอบพระคุณมากค่ะ”

รายงานแนวโน้มธุรกิจบริการต่อใบอนุญาตทำงาน และรับทำเอกสารต่ออายุวีซ่า ของประเทศไทย ในปัจจุบันและอนาคต

ธุรกิจบริการต่อใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และรับทำเอกสารต่ออายุวีซ่า (Visa Extension) ในประเทศไทย เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานหรือพำนักในราชอาณาจักร โดยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ สภาพเศรษฐกิจ และเทคโนโลยี

สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ กลางปี 2568):

1. ความต้องการบริการยังคงมีอยู่สูง:

   • ชาวต่างชาติพำนักและทำงาน: ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาทำงาน ลงทุน หรือใช้ชีวิต ทำให้มีความต้องการบริการด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานอย่างต่อเนื่อง

   • กลุ่มลูกค้าหลัก: ครอบคลุมทั้งนักลงทุน นักธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ ครู อาจารย์ นักเรียน/นักศึกษา และผู้เกษียณอายุ (Retirement Visa)

   • การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการลงทุน: หลังสถานการณ์ COVID-19 ภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น และนำไปสู่ความต้องการบริการที่เกี่ยวข้อง

2. ความซับซ้อนของกฎระเบียบ:

   • กฎหมายและระเบียบที่เปลี่ยนแปลงบ่อย: กฎหมายคนเข้าเมือง และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการขอ/ต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงานมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ชาวต่างชาติจำนวนมากต้องการผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดำเนินการ

   • เอกสารที่หลากหลาย: แต่ละประเภทวีซ่าและใบอนุญาตทำงานมีข้อกำหนดด้านเอกสารที่แตกต่างกันและซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจประสบปัญหา

3. การแข่งขันในตลาด:

   • ผู้ประกอบการหลากหลาย: มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้บริการครบวงจร บริษัทขนาดเล็ก ผู้รับทำอิสระ และทนายความที่ให้บริการด้านนี้ ทำให้เกิดการแข่งขันสูง

   • ราคาและคุณภาพ: ผู้ให้บริการแข่งขันกันทั้งในด้านราคา ความรวดเร็ว และคุณภาพของการบริการ

4. บทบาทของเทคโนโลยีภาครัฐ:

   • ระบบออนไลน์: กรมการจัดหางานและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้พัฒนาและนำระบบยื่นคำขอและตรวจสอบสถานะออนไลน์ (e-Service) มาใช้มากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและลดระยะเวลาการดำเนินการ

   • ผลกระทบต่อธุรกิจบริการ: การมีระบบออนไลน์ที่สะดวกขึ้น อาจทำให้ชาวต่างชาติบางส่วนสามารถดำเนินการเองได้โดยไม่ต้องผ่านตัวแทน ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับตัว

แนวโน้มในอนาคต:

1. Digitalization และ E-Service ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น:

   • ยื่นและติดตามสถานะออนไลน์เต็มรูปแบบ: คาดการณ์ว่าในอนาคต ระบบ e-Service ของภาครัฐจะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ครอบคลุมขั้นตอนการยื่นคำขอ การชำระเงิน และการติดตามสถานะอย่างครบวงจร ซึ่งจะช่วยลดการเดินทางและเพิ่มความรวดเร็ว

   • AI และ Chatbots: อาจมีการนำ AI และ Chatbots มาใช้ในการตอบคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับการยื่นเอกสาร ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น

2. ความต้องการบริการที่ซับซ้อนและเฉพาะทาง:

   • การให้คำปรึกษาเชิงลึก: แม้ระบบออนไลน์จะสะดวกขึ้น แต่ชาวต่างชาติที่เผชิญกับเคสซับซ้อน ข้อจำกัดส่วนบุคคล หรือต้องการการวางแผนระยะยาว (เช่น การขอวีซ่าประเภทพิเศษ, การเปลี่ยนประเภทวีซ่า, การขอวีซ่าสำหรับผู้ติดตาม) ยังคงต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

   • กลุ่ม Talent และ Tech Visa: การส่งเสริมการลงทุนและดึงดูดผู้มีความสามารถพิเศษ (Talent) เข้ามาทำงานในประเทศไทย (เช่น วีซ่า Long-Term Resident – LTR Visa) จะสร้างความต้องการบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางที่มีกำลังซื้อสูง

3. การปรับตัวของผู้ให้บริการ:

   • เน้นบริการให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหา: ผู้ให้บริการจะต้องเปลี่ยนจากการ “รับเดินเอกสาร” ไปสู่การเป็น “ที่ปรึกษา” ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก ช่วยวางแผน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการ

   • พัฒนาแพลตฟอร์มของตนเอง: ผู้ให้บริการบางรายอาจพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนเองเพื่ออำนวยความสะดวกในการกรอกข้อมูล จัดเตรียมเอกสารเบื้องต้น และสื่อสารกับลูกค้า

   • ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: การเน้นความเชี่ยวชาญในกลุ่มวีซ่าหรือประเภทธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง (เช่น วีซ่าสำหรับผู้เกษียณ, วีซ่าทำงานใน EEC, วีซ่านักกีฬา) จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

   • การบริการหลังการขาย: การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรายงานตัว 90 วัน, การแจ้งที่พัก, และการต่ออายุในปีถัดๆ ไป จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

4. การแข่งขันที่ยังคงอยู่และกฎหมายที่เข้มงวด:

   • การควบคุมผู้ประกอบการ: ภาครัฐอาจมีการควบคุมและกำหนดมาตรฐานสำหรับผู้ให้บริการมากขึ้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงหรือการให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน

   • การแข่งขันด้านความน่าเชื่อถือ: ผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรอง มีชื่อเสียงที่ดี และมีความโปร่งใส จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า

สรุปโดยรวม:

ธุรกิจบริการต่อใบอนุญาตทำงานและรับทำเอกสารต่ออายุวีซ่าในประเทศไทยยังคงมีอนาคตที่ดี เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติ แต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและกฎระเบียบของภาครัฐ โดยเน้นการยกระดับบริการไปสู่การเป็นที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญ การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส เพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนและหลากหลายของลูกค้าในอนาคต