ลูกค้าของเรา นักธุรกิจส่งออกกระท่อมพืชเศรษฐกิจใหม่



“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจส่งออกกระท่อมพืชเศรษฐกิจใหม่ มูลค่า 100 ล้านบาทต่อปี มอบความไว้วางใจให้ทีมงานแอคโปรแท็ค (AccProTax) ให้คำปรึกษาด้านบัญชีและวางแผนภาษีรายเดือน
เปิดธุรกิจ และให้คำปรึกษาการวางระบบบัญชี ประกันสังคม ขยายกิจการ บริหารต้นทุนภาษีให้ปลอดภัย
ขอบพระคุณคุณลูกค้ามากค่ะ”

 

แนวโน้มธุรกิจส่งออกกระท่อมในประเทศไทย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต มีทิศทางที่น่าสนใจแต่ก็มีความท้าทายหลายประการ ดังนี้

ปัจจุบัน:

ปลดล็อกกฎหมาย: ประเทศไทยได้ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ทำให้ประชาชนสามารถปลูก ครอบครอง ซื้อ ขาย และบริโภคพืชกระท่อมได้อย่างเสรี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ
โอกาสการส่งออก: แม้ว่าไทยจะเป็นผู้ส่งออกกระท่อมรายใหญ่ของโลก (เดิมครองตลาดถึง 90-95%) แต่ปัจจุบันมีการนำเข้ากระท่อมจากอินโดนีเซียเพื่อใช้ทางการแพทย์ แสดงให้เห็นว่ายังมีช่องว่างในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อการส่งออกมากขึ้น
ความพยายามของภาครัฐ: รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. และ ป.ป.ส. กำลังผลักดันให้มีการส่งออกกระท่อมในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่มีสารสำคัญสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพืชกระท่อม

อนาคต:

การผลักดันสู่พืชเศรษฐกิจ: เป้าหมายหลักของภาครัฐคือการผลักดันกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรและเสริมเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกสารสกัดกระท่อมเข้มข้น (Crude) ที่สามารถสร้างรายได้สูง
ตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ: ตลาดสำคัญสำหรับการส่งออกกระท่อมคือ สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงยุโรป ซึ่งเริ่มให้ความสนใจในประโยชน์ทางการแพทย์ของกระท่อม ที่สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยา เครื่องสำอาง และเครื่องดื่มชูกำลัง
งานวิจัยและพัฒนา: การวิจัยทางคลินิกเพื่อพิสูจน์สรรพคุณของกระท่อมในการรักษาโรค ลดอาการปวด หรือใช้ทดแทนมอร์ฟีนและเมธาโดน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือและการยอมรับในระดับสากล
การควบคุมมาตรฐาน: การกำหนดมาตรฐานสารไมทราไจนีน (Mitragynine) ในผลิตภัณฑ์กระท่อมให้มีมาตรฐานกลาง และการออกกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก จะช่วยให้การค้ากระท่อมเป็นไปอย่างถูกต้องและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและประเทศคู่ค้า
การบริหารจัดการอุปทาน: การส่งเสริมการปลูกอย่างถูกต้อง การบริหารจัดการผลผลิตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุปทานส่วนเกิน (Over Supply) และการรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นวิสาหกิจชุมชน จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร

ความท้าทาย:

ความไม่แน่นอนของอุปสงค์: ตลาดกระท่อมยังคงเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) และการรับรู้ของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์กระท่อมยังไม่กว้างขวางนัก ซึ่งอาจทำให้การเจาะตลาดปลายน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย
การแข่งขัน: แม้ไทยจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ แต่ก็มีประเทศอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาอุตสาหกรรมกระท่อมเช่นกัน ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดโลก
กฎระเบียบของประเทศผู้นำเข้า: แต่ละประเทศอาจมีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระท่อมที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้ประกอบการต้องศึกษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ความเสี่ยงด้านราคา: หากอุปทานเพิ่มขึ้นมากและอุปสงค์ยังไม่แน่นอน ราคาขายอาจปรับตัวลดลงได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร

โดยสรุป : ธุรกิจส่งออกกระท่อมในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต จากการสนับสนุนของภาครัฐ งานวิจัยที่ก้าวหน้า และความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการและเกษตรกรจะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการตลาด การควบคุมมาตรฐาน และการบริหารจัดการอุปทาน เพื่อให้กระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง


บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่