“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ และรับจ้างทำความสะอาด มอบความไว้วางใจให้ดูแลเปิดบริษัทใหม่ พร้อมกัน 3 ธุรกิจ เข้ามาเยี่ยมสำนักงานบัญชี

และวางแผนภาษีแอคโปรแท็ค (AccProTax) พร้อมปรึกษาทำบัญชีรายเดือน การวางแผนภาษี ดำเนินโครงสร้างธุรกิจอย่างถูกต้องตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก ให้คำปรึกษาผู้ประกอบการเติบโต และยั่งยืน

ขอบพระคุณมากค่ะ”

รายงานแนวโน้มธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ และรับจ้างทำความสะอาด ของประเทศไทย ในปัจจุบันและอนาคต

ธุรกิจทั้งสามประเภทนี้มีพลวัตที่น่าสนใจและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ดังนี้:

1. ธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่

สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ กลางปี 2568):

• การแข่งขันสูงและตลาดอิ่มตัว: ธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก มีร้านเปิดใหม่จำนวนมาก แต่ก็มีร้านที่ปิดตัวลงไปไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะในเขตเมืองและแหล่งท่องเที่ยว

• เศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อ: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดร้านอาหารและเครื่องดื่มในปี 2568 จะเติบโตเพียง 2.8% (ปรับลดจากคาดการณ์เดิมที่ 4.6%) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค

• ต้นทุนที่สูงขึ้น: ผู้ประกอบการเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าเช่าพื้นที่ ค่าสาธารณูปโภค และวัตถุดิบ

• การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว: การท่องเที่ยวที่กลับมาช่วยหนุนธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารข้างทาง (Street Food) และร้านที่ติด Michelin Guide ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ

• พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป:

  • Delivery Platform: แพลตฟอร์มส่งอาหารยังคงมีบทบาทสำคัญ แม้ว่ายอดขาย Dine-in จะลดลงในบางช่วง

  • ความต้องการประสบการณ์และเอกลักษณ์: ผู้บริโภคแสวงหาร้านที่มีคอนเซ็ปต์โดดเด่น บรรยากาศสวยงาม หรือมีเมนูพิเศษเฉพาะตัว (Signature Menu)

  • Specialty Coffee/Craft Coffee: ตลาดกาแฟพิเศษเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติของเมล็ดกาแฟมากขึ้น

แนวโน้มในอนาคต:

• การปรับตัวสู่ “Hybrid Model”: ร้านอาหารและคาเฟ่จะเน้นการผสมผสานระหว่างการรับประทานที่ร้าน (Dine-in) และบริการ Delivery/Takeaway เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า

• เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น:

  • Digital Marketing: การใช้สื่อโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ในการโปรโมทร้านและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจะมีความสำคัญยิ่งขึ้น

  • CRM (Customer Relationship Management): การใช้ระบบสมาชิกหรือ Loyalty Program เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า

  • Automation/AI: การนำระบบอัตโนมัติมาช่วยในการจัดการร้าน เช่น ระบบสั่งอาหาร, ระบบจัดการคิว, หรือการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

• เน้นสุขภาพและความยั่งยืน: เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ (เช่น Plant-based, Clean Food) และการใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนจะได้รับความนิยมมากขึ้น

• Personalization: การนำเสนอเมนูหรือบริการที่ปรับให้เข้ากับความชอบเฉพาะบุคคลของผู้บริโภค

• Franchise Model: แฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุน เนื่องจากมีระบบที่วางไว้แล้วและแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก

• การสร้าง “Community Space”: คาเฟ่จะพัฒนาบทบาทเป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟ แต่เป็นพื้นที่สำหรับการทำงาน การพบปะสังสรรค์ หรือจัดกิจกรรมต่างๆ

2. ธุรกิจรับจ้างทำความสะอาด

สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ กลางปี 2568):

• ความต้องการเพิ่มขึ้น: ธุรกิจรับจ้างทำความสะอาดยังคงมีความต้องการสูงจากทั้งภาคครัวเรือน (บ้าน, คอนโด) ภาคธุรกิจ (สำนักงาน, โรงงาน, โรงแรม) และภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหลังช่วงการระบาดของโรคที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงสุขอนามัยมากขึ้น

• การขาดแคลนแรงงาน: เป็นความท้าทายสำคัญของธุรกิจนี้ การหาแรงงานที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายต้องปฏิเสธงานหรือเสียโอกาส

• ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น: การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการดำเนินงาน เนื่องจากค่าแรงเป็นสัดส่วนหลักของต้นทุน

• การแข่งขัน: มีผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ในตลาด การแข่งขันเน้นที่คุณภาพบริการ ราคา และความน่าเชื่อถือ

• แพลตฟอร์มออนไลน์: การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการจองบริการทำความสะอาด (เช่น BeNeat) เริ่มเป็นที่นิยม ทำให้การเข้าถึงบริการง่ายขึ้น

แนวโน้มในอนาคต:

• การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม:

  • Automation & Robotics: การนำหุ่นยนต์ทำความสะอาด หรืออุปกรณ์อัตโนมัติมาใช้ในงานทำความสะอาดขนาดใหญ่ (เช่น ในอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า) เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพ

  • Smart Cleaning Solutions: การใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีการทำความสะอาดที่ทันสมัย

  • IoT (Internet of Things): การติดตั้งเซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบความสะอาดและกำหนดเวลาการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• บริการเฉพาะทาง: การขยายบริการไปยังกลุ่มเฉพาะทาง เช่น การทำความสะอาดหลังการก่อสร้าง, การทำความสะอาดโรงงานอุตสาหกรรม, การทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรค, หรือการทำความสะอาดสำหรับผู้สูงอายุ

• มาตรฐานสุขอนามัยที่เข้มงวดขึ้น: ผู้บริโภคและภาคธุรกิจจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัยในการทำความสะอาดมากขึ้น

• การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร: ผู้ประกอบการจะลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะและความเชี่ยวชาญมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพบริการและสร้างความแตกต่าง

• โมเดลธุรกิจแบบ Subscription: การให้บริการทำความสะอาดแบบรายเดือนหรือรายปี เพื่อสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและรักษาฐานลูกค้า

โดยสรุปภาพรวม:

ทั้งธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ และรับจ้างทำความสะอาด ต่างก็เผชิญกับความท้าทายด้านการแข่งขันและต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตหากสามารถปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่จะเน้นการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวและตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ ในขณะที่ธุรกิจรับจ้างทำความสะอาดจะมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและยกระดับมาตรฐานบริการให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น