ทำไมคนรวยจึงเปิดบริษัท ข้อดีของการเปิดบริษัทมีอะไรบ้าง? เพราะคนรวยมักเลือกเปิดบริษัท (จัดตั้งเป็นนิติบุคคล) แทนการทำธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา เนื่องจากเหตุผลหลักหกประการที่กล่าวมานั้นเป็นจริง และเป็นกลยุทธ์สำคัญในการ ลดภาระภาษี (Tax Minimization) และ จำกัดความเสี่ยง (Risk Management) นี่คือคำอธิบายโดยละเอียด:
1. การแบ่งแยกรายได้และทรัพย์สิน (Separation of Income and Assets) 🛡️
การเปิดบริษัทช่วยให้เกิดการแบ่งแยกทางกฎหมายและการเงินอย่างชัดเจนระหว่างธุรกิจกับเจ้าของ ซึ่งมีความสำคัญต่อคนรวยมาก
A. รายได้ธุรกิจไม่กระทบรายได้ส่วนตัว
- ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย (Liability Protection): บริษัทมีสถานะเป็น “บุคคล” ทางกฎหมายแยกต่างหากจากผู้ถือหุ้นหรือกรรมการ (Limited Liability) หากธุรกิจประสบปัญหาหนี้สินหรือถูกฟ้องร้อง ทรัพย์สินส่วนตัว ของคนรวย (เช่น บ้าน, เงินฝากส่วนตัว, ที่ดิน) จะไม่ถูกนำมาชดใช้หนี้สินของบริษัท (ยกเว้นกรณีที่เจ้าของค้ำประกันส่วนตัว หรือทำผิดกฎหมาย)
- การบริหารเงินทุน: กำไรของบริษัทจะอยู่ในบัญชีของบริษัท รายได้ส่วนตัวของเจ้าของ (เงินเดือน, เงินปันผล) จะถูกควบคุมให้จ่ายออกจากบริษัทตามความจำเป็น ทำให้สามารถบริหารจัดการเงินทุนส่วนที่เหลือเพื่อการลงทุนขยายกิจการ หรือการเก็บสะสมไว้ในบริษัทโดยไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีบุคคลธรรมดาในทันที
B. การจำกัดขอบเขตการตรวจสอบภาษี
- แยกฐานภาษี: กรมสรรพากรจะตรวจสอบภาษีของกิจการ (นิติบุคคล) และภาษีของบุคคล (เจ้าของ/กรรมการ) แยกจากกัน การมีบริษัทช่วยให้ง่ายต่อการพิสูจน์ว่ารายได้ใดเป็นของธุรกิจ และรายได้ใดเป็นรายได้ส่วนตัว ซึ่งช่วยจำกัดขอบเขตการตรวจสอบบัญชีส่วนตัวของคนรวย
2. การวางแผนภาษีที่ฉลาด (Intelligent Tax Planning) 🧠
การเปิดบริษัทเป็นเครื่องมือวางแผนภาษีที่ยืดหยุ่นกว่าบุคคลธรรมดามาก
A. การบริหารค่าใช้จ่าย
- หักรายจ่ายได้กว้างขวาง: นิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมาหักได้แทบทั้งหมด โดยไม่ถูกจำกัดด้วยอัตราเหมาจ่าย 60% หรือ 30% เหมือนบุคคลธรรมดา เช่น ค่าเดินทางเพื่อธุรกิจ, ค่ารับรองลูกค้า, เงินเดือนพนักงาน, ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม (หากมีหลักฐานถูกต้อง)
- การบริหารเงินเดือนกรรมการ: เจ้าของสามารถจ่าย เงินเดือน ให้ตนเองในฐานะกรรมการ ซึ่งเป็น รายจ่ายของบริษัท ทำให้กำไรที่ต้องเสียภาษีนิติบุคคลลดลง และส่วนเงินเดือนที่ได้รับมานั้นก็สามารถใช้สิทธิ์ ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา ได้อีกต่อหนึ่ง (เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว, ประกัน)
B. การบริหารภาษีซ้ำซ้อน (Double Taxation Management)
- ใช้ Final Tax: แม้ว่าการเป็นบริษัทจะมีภาษีซ้ำซ้อน (บริษัทเสียภาษีหนึ่งครั้ง, ผู้ถือหุ้นเสียภาษีเงินปันผลอีกครั้ง) แต่คนรวยสามารถเลือกให้เงินปันผลถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราคงที่ 10% แล้ว ไม่นำไปรวมคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา (Final Tax) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะโดยปกติแล้วคนรวยจะอยู่ในฐานภาษีบุคคลธรรมดาที่สูงกว่า 10% (เช่น 25% หรือ 35%)
3. อัตราภาษีที่ต่ำกว่าและคงที่ (Lower & Predictable Tax Rates) 📉
นี่คือเหตุผลทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการตัดสินใจเปลี่ยนเป็นบริษัท เมื่อธุรกิจมีกำไรสูง
A. เพดานภาษีที่ต่ำกว่ามาก
- อัตราภาษีบุคคลธรรมดา: เป็นแบบก้าวหน้าสูงสุด 35% (เริ่มใช้กับเงินได้สุทธิส่วนที่เกิน 5 ล้านบาท)
- อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (SME):
- ยกเว้นภาษี: กำไรสุทธิ 300,000 บาทแรก เสียภาษี 0%
- อัตราต่ำ: กำไรสุทธิ 300,001 ถึง 3 ล้านบาท เสียภาษีเพียง 15%
- เพดานสูงสุด: กำไรสุทธิส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท เสียภาษีสูงสุดเพียง 20%
ตัวอย่างความประหยัด:
กำไรสุทธิ (ต่อปี) | ภาษีบุคคลธรรมดา (สูงสุด) | ภาษีนิติบุคคล (สูงสุด) |
5,000,000 บาท | อัตราสูงสุด 30% | อัตราสูงสุด 15% |
10,000,000 บาท | อัตราสูงสุด 35% | อัตราสูงสุด 20% |
คนรวยที่มีรายได้สูงจึงประหยัดภาษีได้ถึง 15% (35% – 20%) สำหรับกำไรส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการทำธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา
B. ความแน่นอนของภาษี
อัตราภาษี 20% ของนิติบุคคลเป็นอัตราที่ คงที่และคาดการณ์ได้ ทำให้ง่ายต่อการวางแผนทางการเงินและกำหนดราคาขายสินค้า/บริการในระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากภาษีบุคคลธรรมดาที่อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น

การที่คนรวยเลือกเปิดบริษัท (นิติบุคคล) แทนการทำธุรกิจในนามบุคคลธรรมดานั้น เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องภาษีเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการบริหารความเสี่ยง โอกาสทางธุรกิจ และความน่าเชื่อถือ ดังรายละเอียดของสามเหตุผลหลักที่คุณกล่าวถึง:
4. การแยกการบริหารที่ชัดเจน ระหว่างบุคคล และนิติบุคคล ⚖️
การแยกการบริหารจัดการนี้คือหัวใจสำคัญของการก่อตั้งนิติบุคคล และเป็นเกราะป้องกันความมั่งคั่งส่วนตัวของคนรวย
A. การจำกัดความรับผิดชอบ (Limited Liability)
- การปกป้องทรัพย์สินส่วนตัว: บริษัทถือเป็น “บุคคล” ทางกฎหมายแยกจากเจ้าของ (ผู้ถือหุ้น/กรรมการ) หากบริษัทประสบปัญหา หนี้สิน หรือถูกฟ้องร้องจากคู่ค้า ทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของ (เช่น บ้าน รถยนต์ เงินฝากส่วนตัว) จะ ไม่ถูกนำมาชดใช้หนี้ โดยตรง (ยกเว้นกรณีที่เจ้าของมีการค้ำประกันส่วนตัว หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย) นี่คือความปลอดภัยทางการเงินสูงสุดที่บุคคลธรรมดาไม่สามารถมีได้
- ความชัดเจนทางการเงิน: การแยกบัญชีบริษัทออกจากบัญชีส่วนตัวอย่างชัดเจน ช่วยให้ง่ายต่อการบริหารจัดการเงินทุน การลงทุน และการจ่ายผลตอบแทน (เงินเดือน, เงินปันผล) ซึ่งมีความโปร่งใสกว่าบุคคลธรรมดาที่มักนำรายรับ-รายจ่ายส่วนตัวมาปะปนกับธุรกิจ
B. การบริหารจัดการภาษีส่วนบุคคล
- การบริหารฐานภาษี: เมื่อบริษัททำกำไร กำไรส่วนนี้จะเสียภาษีในอัตรานิติบุคคล (สูงสุด 20%) เจ้าของสามารถเลือกที่จะ ไม่นำกำไรทั้งหมดออกมา ในรูปแบบเงินปันผลทันที แต่เลือกรับเป็น เงินเดือน และ เงินปันผล ในจำนวนที่คำนวณแล้วว่าจะทำให้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาส่วนตัวอยู่ในฐานภาษีที่ต่ำ (เช่น 10% หรือ 15%) ซึ่งเป็นการวางแผนภาษีที่ฉลาดทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคล
5. สามารถนำบริษัทไปรับเงินจากหน่วยงานราชการ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ 🤝
โครงสร้างนิติบุคคลเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่บุคคลธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้
A. ข้อกำหนดในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
- การเข้าสู่ระบบจัดซื้อจัดจ้าง: หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรมหาชน ส่วนใหญ่มักกำหนดให้ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการต้องเป็น นิติบุคคล ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีหลักฐานการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) และมีการยื่นงบการเงินที่ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนหลังได้
B. ความต้องการของธุรกิจขนาดใหญ่ (Large Corporates)
- ความมั่นคงและการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance): บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ (มหาชน, บริษัทข้ามชาติ) มักมีนโยบายให้ทำสัญญากับนิติบุคคลเท่านั้น เนื่องจากบริษัทมีความมั่นคงกว่า มีกระบวนการทางบัญชีและภาษีที่เป็นมาตรฐาน สามารถออกใบกำกับภาษีและเอกสารทางบัญชีที่ถูกต้องได้ง่ายกว่า ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงด้านภาษีที่อาจเกิดจากคู่ค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา
6. ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท ✨
โครงสร้างนิติบุคคลทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ (Credibility) ในสายตาของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบเศรษฐกิจ
A. ความโปร่งใสด้านการเงิน (Financial Transparency)
- การตรวจสอบงบการเงินภาคบังคับ: นิติบุคคลทุกแห่งต้องจัดทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีและต้องให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ตรวจสอบงบการเงินประจำปี การที่งบการเงินได้รับการรับรองจากบุคคลที่สามที่เป็นอิสระ ทำให้ธนาคาร (เมื่อต้องการกู้เงิน), นักลงทุน, หรือคู่ค้าขนาดใหญ่มั่นใจในฐานะทางการเงินของบริษัทมากกว่าการรับรองตัวเองของบุคคลธรรมดา
- การเข้าถึงแหล่งเงินทุน: ธนาคารพาณิชย์มักจะพิจารณาอนุมัติเงินกู้และให้วงเงินสินเชื่อแก่บริษัทมากกว่าบุคคลธรรมดา เนื่องจากบริษัทมีหลักฐานทางการเงินที่เป็นมาตรฐานสากลและมีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ
B. ภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ
- ภาพลักษณ์ทางธุรกิจ: การใช้ชื่อบริษัท เช่น “บริษัท A จำกัด” ให้ภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ มีโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน และมีความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและคู่ค้า

AccProTax รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี ประสบการณ์กว่า 25 ปี
“สะดวก รวดเร็ว เข้าใจ ให้คำปรึกษาเชิงรุก” คือสิ่งที่ AccProTax ให้ความสำคัญ
เพราะเราเข้าใจดีว่า “เรื่องภาษี” ไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ AccProTax จึงมุ่งเน้นการวางระบบบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาการตีความผิดพลาดและลดความเสี่ยงจากการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง ทีมงานของเรามีประสบการณ์กว่า 25 ปี ในการให้บริการทั้งการทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี และวางแผนภาษีอย่างรอบด้าน พร้อมคำปรึกษาที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง
ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้
AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร
ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท
ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/accprotax/
อีเมล: accprotax@gmail.com
โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax
เริ่มต้นจดทะเบียนบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด การจัดทำบัญชี วางแผนภาษี และการขอใบอนุญาตต่างๆ อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และใช้ระยะเวลานาน การมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานจดทะเบียนธุรกิจเป็นที่ปรึกษาและวางแผนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข้อมูลต่อทางการอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญของก้าวแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เรายินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พร้อมให้คำแนะนำในด้านการจดทะเบียน บริษัท(บจก.) ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.) อย่างครบวงจร รวมถึง จัดทำบัญชี และวางแผนภาษี (Tax Planning) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูล เรายินดีช่วยเหลือ ให้บริการที่รวดเร็ว ทันเวลา ราคาเหมาะสม คุยอย่างเป็นกันเอง ยินดีให้บริการอย่างเต็มที่ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี
กรุณากรอกข้อมูล โดยผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับ ให้คำปรึกษาที่ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็ว