กรรมการ หรือนายจ้าง มีสิทธิเข้าระบบประกันสังคม หรือไม่?

กรรมการ หรือนายจ้าง มีสิทธิเข้าระบบประกันสังคม หรือไม่? สำหรับระบบประกันสังคมของไทยแล้ว ปกติกรรมการและนายจ้างไม่มีสิทธิเข้าระบบประกันสังคม ในฐานะ “ลูกจ้าง” ตามกฎหมาย แต่ในบางกรณี ผู้เป็นกรรมการหรือนายจ้างก็สามารถเป็นผู้ประกันตนได้ในฐานะอื่นที่ไม่ใช่ลูกจ้าง


ความหมายของนายจ้างและลูกจ้างตามกฎหมายประกันสังคม

  • ลูกจ้าง: คือผู้ที่ทำงานให้นายจ้างโดยได้รับค่าจ้างเป็นประจำและอยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของนายจ้าง
  • นายจ้าง: คือผู้ที่มีหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างที่ทำงานให้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีอำนาจบังคับบัญชาลูกจ้างนั้นด้วย
กรรมการ หรือนายจ้าง หากยื่นเอกสารประกันสังคมจะพิจารณาว่าเป็นลูกจ้าง หรือเป็นนายจ้าง
กรรมการ หรือนายจ้าง หากยื่นเอกสารประกันสังคมจะพิจารณาว่าเป็นลูกจ้าง หรือเป็นนายจ้าง
กรรมการ หรือนายจ้าง และถือหุ้นอย่างมีสาระสำคัญ ถือเป็นนายจ้าง ไม่ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน
กรรมการ หรือนายจ้าง และถือหุ้นอย่างมีสาระสำคัญ ถือเป็นนายจ้าง ไม่ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน

กรณีพนักงานที่เคยเป็นลูกจ้างมาก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นนายจ้าง

หากพนักงานที่เคยเป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคมมาก่อน แล้วต่อมาได้เปลี่ยนสถานะเป็นนายจ้าง (เช่น เป็นเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารสูงสุด) บุคคลนั้นจะ “สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง” ในทันทีที่เปลี่ยนสถานะ

  • การแจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม: นายจ้างจะต้องแจ้งการสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างของบุคคลนั้นต่อสำนักงานประกันสังคมด้วย แบบฟอร์ม สปส. 6-09 ภายใน 15 วัน นับจากวันที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
  • บทลงโทษ: หากไม่แจ้งออกจากระบบประกันสังคมให้ถูกต้องและยังคงจ่ายเงินสมทบต่อไป บุคคลนั้นจะ “ไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ใดๆ จากกองทุนประกันสังคมได้” ในช่วงเวลาที่จ่ายเงินสมทบผิดสถานะ และเงินที่จ่ายไปจะถูกบันทึกเป็นเงินสมทบที่ชำระเกินไปเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเป็นสิทธิประโยชน์ได้
ถ้าหากเคยเป็นลูกจ้าง แล้วเปลี่ยนมาเป็นนายจ้าง ให้ทำหนังสือแจ้งออกจากประกันสังคม
ถ้าหากเคยเป็นลูกจ้าง แล้วเปลี่ยนมาเป็นนายจ้าง ให้ทำหนังสือแจ้งออกจากประกันสังคม

ลูกจ้างในระบบประกันสังคมก่อนปี 2550

กรณีลูกจ้างที่เคยอยู่ในระบบประกันสังคมก่อนปี 2550 แล้วต่อมาได้เปลี่ยนสถานะเป็นนายจ้าง (ไม่ใช่ลูกจ้าง) และยังคงจ่ายเงินสมทบต่อไป กฎหมายประกันสังคมในขณะนั้นยังไม่มีบทบัญญัติที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ทำให้มีผู้ที่อยู่ในระบบต่อมาได้

ข้อหารือของสำนักงานประกันสังคม กรณีอยู่ในระบบก่อนปี 2550 และหลังปี 2550 ให้แจ้งออกจากระบบประกันสังคม
ข้อหารือของสำนักงานประกันสังคม กรณีอยู่ในระบบก่อนปี 2550 และหลังปี 2550 ให้แจ้งออกจากระบบประกันสังคม

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ หากเปลี่ยนสถานะเป็นนายจ้าง จะไม่สามารถอยู่ในระบบประกันสังคมได้ในฐานะลูกจ้าง


กรณีไม่แจ้งออกจากระบบให้ถูกต้อง

หากนายจ้างไม่แจ้งออกจากระบบให้ถูกต้อง และยังคงจ่ายเงินสมทบต่อไป จะไม่ถูกเรียกเก็บ “เบี้ยปรับย้อนหลัง” จากสำนักงานประกันสังคมในฐานะนายจ้าง เพราะเป็นการจ่ายเงินสมทบเกินไป แต่ผลที่ตามมาคือ:

  • ไม่มีสิทธิประโยชน์: เงินสมทบที่จ่ายไปหลังจากสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง จะไม่ทำให้เกิดสิทธิประโยชน์ใดๆ เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาล, เงินชดเชยการว่างงาน, หรือเงินบำเหน็จบำนาญในส่วนนั้น
  • เงินคืน: นายจ้างสามารถทำเรื่องขอเงินคืนในส่วนที่ชำระเกินไปได้ แต่เงินนั้นจะไม่ถูกนำไปนับรวมในสิทธิประโยชน์
แบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน สปส.6-09 สำนักงานประกันสังคม
แบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน สปส.6-09 สำนักงานประกันสังคม

สรุป:

  • กรรมการและนายจ้างไม่สามารถเป็นผู้ประกันตนในฐานะลูกจ้างได้
  • เมื่อลูกจ้างเปลี่ยนสถานะเป็นนายจ้าง ต้องแจ้งออกจากระบบภายใน 15 วันด้วยแบบฟอร์ม สปส. 1-03
  • การไม่แจ้งออกจากระบบจะทำให้เงินสมทบที่จ่ายไปหลังเปลี่ยนสถานะ “ไม่มีผลต่อสิทธิประโยชน์” และไม่มีเบี้ยปรับย้อนหลังในกรณีนี้

ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้

AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร

✅ ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
✅ มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
✅ ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท

✅ ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
✅ ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
📧 อีเมล: accprotax@gmail.com
📞 โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax

บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่