ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax – WHT) คือ ระบบการจัดเก็บภาษีล่วงหน้าวิธีหนึ่งที่กำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ มีหน้าที่หักเงินจากยอดเงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับ แล้วนำส่งภาษีที่หักไว้นั้นให้กับกรมสรรพากร แทนผู้รับเงินได้ มาทำความรู้จักวิธีคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย แบบเข้าใจง่ายๆ ดังนี้
วัตถุประสงค์หลัก:
- อำนวยความสะดวกในการจัดเก็บภาษี: ลดภาระผู้เสียภาษีในการไปยื่นภาษีเองทั้งหมด และช่วยให้กรมสรรพากรได้รับภาษีล่วงหน้า ทำให้มีกระแสเงินสดเข้ารัฐอย่างสม่ำเสมอ
- ลดปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษี: เป็นการตรวจสอบและควบคุมการเสียภาษีของผู้รับเงินได้ในเบื้องต้น
ใครคือผู้มีหน้าที่หัก ณ ที่จ่าย?
- ผู้จ่ายเงินได้: บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีหน้าที่หักภาษีจากเงินได้ที่จ่าย
- ผู้รับเงินได้: บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ได้รับเงินได้
ลักษณะสำคัญ:
- ผู้รับเงินได้ที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย สามารถนำใบหัก ณ ที่จ่าย (หนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย หรือ ภ.ง.ด. ตามประเภท) ไปเป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี (หักออกจากภาษีที่ต้องชำระจริง) เมื่อถึงกำหนดยื่นภาษีประจำปี


อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย ยอดนิยมที่ใช้กันบ่อย
อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเงินได้ที่จ่ายและสถานะของผู้รับเงินได้ (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) รวมถึงข้อตกลงพิเศษตามอนุสัญญาภาษีซ้อน (สำหรับชาวต่างชาติ)
อัตราที่นิยมใช้กันบ่อยในกิจการทั่วไป:
ประเภทเงินได้ที่จ่าย (ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร) |
ผู้รับเงินได้ (ในประเทศ) |
อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย |
ค่าบริการ/ค่าจ้างทำของ/ค่าวิชาชีพอิสระ | บุคคลธรรมดา | 3% |
(เช่น ค่าจ้างทำบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, ค่าทำความสะอาด, ค่าโฆษณา, ค่าออกแบบ, ค่าซ่อมแซม) | นิติบุคคล (บริษัท/ห้างหุ้นส่วน) | 3% |
ค่าเช่า | บุคคลธรรมดา | 5% |
นิติบุคคล | 5% | |
ค่าขนส่ง (ไม่รวมค่าโดยสาร) | บุคคลธรรมดา | 1% |
นิติบุคคล | 1% | |
ค่าลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ค่า Goodwill | บุคคลธรรมดา | 5% |
นิติบุคคล | 3% (ทั่วไป) หรือ 5% (ถ้าไม่ใช่กิจการเฉพาะ) | |
เงินได้จากการประกวด แข่งขัน ชิงโชค | บุคคลธรรมดา | 5% (หัก 5% ของเงินได้ที่ได้รับ) |
ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย | นิติบุคคล (บริษัทประกัน) | 1% |
ค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ | บุคคลธรรมดา | อัตราก้าวหน้า (0.5% – 10%) ตามราคาประเมิน |
เงินปันผล/เงินส่วนแบ่งกำไร | บุคคลธรรมดา | 10% |
นิติบุคคล | ยกเว้น (ตามเงื่อนไข) |

การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ต้องรู้ 1.จ่ายค่าอะไร และ 2.จ่ายให้กับใคร


หมายเหตุ:
- ผู้รับเงินที่เป็นบริษัทต่างประเทศที่ไม่มีสถานประกอบการถาวรในไทย: อัตรา WHT อาจเป็น 15% หรือ 10% หรือตามอนุสัญญาภาษีซ้อน
- บริการบางประเภท: อาจมีอัตราที่แตกต่างกันไป เช่น ค่าบริการโรงแรม, ค่าบริการทางการแพทย์สำหรับบุคคลที่ได้รับเงินเดือน/ค่าจ้างประจำ (อาจไม่ถูกหัก)
- การยกเว้น/ลดหย่อน: ในบางกรณี กฎหมายอาจยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือมีอัตราลดหย่อนพิเศษ (เช่น การจ่ายเงินได้จำนวนเล็กน้อย, การจ่ายให้หน่วยงานราชการ, การจ่ายเงินได้ที่ไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี)
กำหนดการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย จะต้องนำส่งภาษีที่หักไว้นั้น พร้อมยื่นแบบแสดงรายการต่อกรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป หลังจากเดือนที่มีการจ่ายเงินได้นั้น
ตัวอย่าง:
- จ่ายเงินได้ (ที่ต้องหักภาษี) ในเดือนมกราคม ต้องนำส่งและยื่นแบบภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์
- จ่ายเงินได้ (ที่ต้องหักภาษี) ในเดือนกุมภาพันธ์ ต้องนำส่งและยื่นแบบภายในวันที่ 7 มีนาคม
ข้อยกเว้น (กรณีเฉพาะ):
- การยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต: หากยื่นแบบฯ ภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต จะได้รับ ขยายเวลาออกไปอีก 8 วัน (รวมเป็นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป)
- เงินได้ตามมาตรา 40(1) และ 40(2) (เงินเดือน, ค่าจ้าง): สำหรับเงินได้ประเภทเงินเดือน ค่าจ้าง ที่จ่ายให้กับพนักงาน ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.1 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือ 15 หากยื่นออนไลน์)
- เงินปันผล/เงินส่วนแบ่งกำไร: การหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกำไร มักจะมีการยื่นแบบ ภ.ง.ด.2 และ ภ.ง.ด.3 (สำหรับบุคคลธรรมดา) หรือ ภ.ง.ด.53 (สำหรับนิติบุคคล) ตามรอบที่จ่าย
ขั้นตอนการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย
การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยมีขั้นตอนดังนี้:
1) ระบุประเภทเงินได้ที่จ่าย
- พิจารณาว่าเงินที่คุณจ่ายนั้นเข้าข่ายเงินได้ประเภทใดตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร (เช่น ค่าบริการ, ค่าเช่า, ค่าขนส่ง, ค่าจ้าง)
2) ระบุสถานะของผู้รับเงินได้
- ผู้รับเงินได้เป็น “บุคคลธรรมดา” หรือ “นิติบุคคล” (บริษัท/ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล)
3) กำหนดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกต้อง
- จากประเภทเงินได้และสถานะผู้รับเงินได้ ให้อ้างอิงอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่กรมสรรพากรกำหนด (ตามตารางยอดนิยมด้านบน หรือตรวจสอบจากประกาศ/คำสั่งกรมสรรพากรโดยตรง)
4) คำนวณยอดภาษีที่ต้องหัก
- สูตร: ยอดเงินที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย = (ยอดเงินที่จ่าย ก่อนหักภาษี) x อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- สำคัญ: ยอดเงินที่ใช้คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือยอดเงินที่ยังไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย หรือค่าใช้จ่ายอื่นใด
- ตัวอย่าง 1: ค่าบริการ (บุคคลธรรมดา/นิติบุคคล) 3%
- บริษัท A จ่ายค่าบริการทำเว็บไซต์ให้บริษัท B จำนวน 10,000 บาท
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย = 10,000 บาท x 3% = 300 บาท
- บริษัท A จะจ่ายเงินให้บริษัท B จริง = 10,000 – 300 = 9,700 บาท
- บริษัท A มีหน้าที่นำส่งภาษี 300 บาท ให้กรมสรรพากร
- ตัวอย่าง 2: ค่าเช่า (บุคคลธรรมดา/นิติบุคคล) 5%
- ร้านค้า C จ่ายค่าเช่าพื้นที่ให้คุณ D (บุคคลธรรมดา) จำนวน 20,000 บาท
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย = 20,000 บาท x 5% = 1,000 บาท
- ร้านค้า C จะจ่ายเงินให้คุณ D จริง = 20,000 – 1,000 = 19,000 บาท
- ร้านค้า C มีหน้าที่นำส่งภาษี 1,000 บาท ให้กรมสรรพากร
- ตัวอย่าง 3: ค่าขนส่ง (บุคคลธรรมดา/นิติบุคคล) 1%
- บริษัท E จ่ายค่าขนส่งสินค้าให้บริษัท F จำนวน 5,000 บาท
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย = 5,000 บาท x 1% = 50 บาท
- บริษัท E จะจ่ายเงินให้บริษัท F จริง = 5,000 – 50 = 4,950 บาท
- บริษัท E มีหน้าที่นำส่งภาษี 50 บาท ให้กรมสรรพากร
- ตัวอย่าง 1: ค่าบริการ (บุคคลธรรมดา/นิติบุคคล) 3%

5) ออกหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย
- ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ออก “หนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย” (เช่น ภ.ง.ด.2, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.53) ให้แก่ผู้รับเงินได้ เพื่อเป็นหลักฐานในการนำไปใช้เครดิตภาษีของตนเอง
6) นำส่งภาษีที่หักไว้
- นำเงินภาษีที่หักไว้ไปนำส่งกรมสรรพากร พร้อมยื่นแบบแสดงรายการ (ภ.ง.ด.1, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.53 ฯลฯ) ภายในกำหนดเวลา


การทำความเข้าใจภาษีหัก ณ ที่จ่ายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกกิจการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมายและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทางภาษีค่ะ
ติดต่อ AccProTax ได้เลยวันนี้
AccProTax พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนแบบครบวงจร
ฟรี! ให้คำแนะนำเบื้องต้น
มีแพ็กเกจรายเดือน ปิดงบ รายปี
ดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจริง พร้อมให้บริการธุรกิจ SME ทุกประเภท
ฟรีคำปรึกษาเบื้องต้น
ดูแลเอกสารให้ครบ จดเสร็จในไม่กี่วัน
อีเมล: accprotax@gmail.com
โทร: 02-124-3062
LineOA: @accprotax