รู้จักกับ RMF และ LTF
RMF และ LTF เป็นกองทุนเพื่อลงส่งเสริมให้มีการลงในระยะยาว ทั้งสองตัวมีรายละเอียดแตกต่างกัน สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนและออมเงิน ต้องศึกษาเงื่อนไขต่างให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ
RMF ย่อมาจากคำว่า “Retirement Mutual Fund” หรือ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” เป็นกองทุนรวมประเภทส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาว ไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุและมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อรองรับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามช่วงอายุของผู้ลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำถึงความเสี่ยงสูง RMF ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การลงทุนเช่นกัน โดยเพิ่มเติมจากคำว่า “เงินได้” เป็นคำว่า “ผู้มีเงินได้สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี เป็นจำนวนเงินสูงสุดถึง 500,000 บาท” เมื่อรวมกับกองทุนอื่น ๆ ดังนี้
- เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(Provident Fund)
- กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
- ประกันชีวิตชนิดบำนาญ
- กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องซื้อติดต่อกันทุกปี นอกจากนั้นยังต้องถือไว้เกินกว่า 5 ปี และมีอายุเกิน 55 ปี ถึงจะสามารถขายได้
RFM เหมาะสมกับใคร?
- เหมาะกับคนทุกกลุ่มที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณมารองรับ เช่น คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนรวมสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่มีสวัสดิการ ดังกล่าวแล้วแต่มีความประสงค์ที่จะออมเพิ่มTF
LTF ย่อมาจากคำว่า “Long Term Equity Fund” หรือ “กองทุนรวมหุ้นระยะยาว” ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก และเหมาะสำหรับคนทุกกลุ่มที่ต้องการลงทุนในหุ้นระยะยาว LTF ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การลงทุนอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น คือ เพิ่มเติมจากคำว่า “เงินได้” เป็นคำว่า “ผู้มีเงินได้สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี เป็นจำนวนเงินสูงสุดถึง 500,000 บาท”
LTF เหมาะสมกับใครบ้าง?
บุคคลที่มีรายได้และต้องเสียภาษี มีเป้าหมายในการลงทุน เช่น สร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น ลดหย่อนภาษีสร้างวินัยการลงทุนยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นได้
อ้างอิง : https://www.dharmniti.co.th/%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81-rmf-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0-ltf/