
“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจบำรุงรักษาและซ่อมระบบเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ขายอะไหล่ยนต์ มอบความไว้วางใจ เดินทางปรึกษาการวางแผนภาษี จัดโครงสร้างแผนธุรกิจ ให้ทำบัญชีรายเดือน และวางแผนภาษี
โดยทีมงานคุณภาพดูแลถึงที่สำนักงาน มั่นใจในทุกบริการบัญชีกับทีมงานแอคโปรแท็ค (AccProTax)
ขอบพระคุณมากค่ะ”
ธุรกิจบำรุงรักษาและซ่อมระบบเครื่องยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
โดยมีปัจจัยหลักขับเคลื่อนดังนี้
แนวโน้มในปัจจุบัน:
จำนวนรถยนต์ที่ใช้งานยังคงสูง: แม้ว่ายอดขายรถยนต์ใหม่จะชะลอตัวลง แต่จำนวนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่จดทะเบียนและใช้งานอยู่บนท้องถนนยังมีจำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ซึ่งต้องการการบำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะเวลาและสภาพการใช้งาน ทำให้ธุรกิจซ่อมบำรุงยังมีรายได้จากกลุ่มนี้ต่อเนื่อง
การแข่งขันที่รุนแรง: ตลาดบริการหลังการขายรถยนต์มีการแข่งขันสูง ทั้งจากศูนย์บริการของค่ายรถยนต์เอง อู่ซ่อมอิสระ และร้านอะไหล่ต่างๆ ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการ ราคาที่สมเหตุสมผล ความโปร่งใส และความสะดวกในการเข้าถึง
ปัญหาหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อ: หนี้ครัวเรือนที่สูงและกำลังซื้อที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ใหม่ และอาจส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการเปลี่ยนรถใหม่และหันมาซ่อมบำรุงรถคันเดิมมากขึ้น
ความสำคัญของอะไหล่ทดแทน (REM): ความต้องการอะไหล่ทดแทนยังคงเติบโตตามจำนวนรถยนต์ที่ใช้งาน และมีการนำเข้าอะไหล่จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา
แนวโน้มในอนาคต:
การเปลี่ยนแปลงสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV): นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงธุรกิจซ่อมบำรุง โดย:
ลดความต้องการซ่อมเครื่องยนต์สันดาป: รถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ามาก ทำให้ความต้องการการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบสันดาปภายในลดลงอย่างมาก
เปลี่ยนประเภทงานซ่อม: งานซ่อมจะเปลี่ยนไปเน้นที่แบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้ากำลัง มอเตอร์ไฟฟ้า และซอฟต์แวร์มากขึ้น ซึ่งต้องการทักษะและความรู้เฉพาะทางที่แตกต่างจากเดิม
ผลกระทบต่ออู่ซ่อมอิสระ: อู่ซ่อมขนาดเล็กที่ไม่มีความรู้และเครื่องมือรองรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
โอกาสใหม่: เกิดโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ EV
เทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ: การนำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบวินิจฉัยอัจฉริยะ (On-board diagnostics), การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance), และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการซ่อมบำรุง ทำให้การวินิจฉัยปัญหาแม่นยำและรวดเร็วขึ้น
ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม: อุตสาหกรรมจะให้ความสำคัญกับการซ่อมบำรุงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะและของเสียอย่างถูกวิธี รวมถึงการรีไซเคิลชิ้นส่วน
การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร: การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้บุคลากรในธุรกิจซ่อมบำรุงต้องได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า
การลงทุนและการปรับตัว: ผู้ประกอบการต้องพิจารณาการลงทุนในเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป








