ลูกค้าของเรา นักธุรกิจโรงงานการผลิตเหล็กดัด งานกลึง งานเชื่อมเหล็ก


“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจโรงงานการผลิตเหล็กดัด งานกลึง งานเชื่อมเหล็ก หนึ่งงานคุณภาพที่แอคโปรแท็ค (AccProTax) ให้คำปรึกษาด้านการบริหารต้นทุนและภาษี บริการที่รวดเร็วตรงใจ

ลูกค้าพึงพอใจ ยกนิ้วให้ประทับใจในการบริการจดทะเบียนบริษัทของทีมงานแอคโปรแท็ค (AccProTax)

และให้คำปรึกษาบัญชีและวางแผนภาษีรายเดือนให้ลูกค้า

ขอบพระคุณคุณลูกค้ามากค่ะ”


รายงานแนวโน้มธุรกิจโรงงานการผลิตเหล็กดัด งานกลึง และงานเชื่อมเหล็ก ของประเทศไทย ในปัจจุบันและอนาคต

ธุรกิจโรงงานการผลิตเหล็กดัด งานกลึง (Machining) และงานเชื่อมเหล็กในประเทศไทย เป็นหัวใจสำคัญของภาคอุตสาหกรรม โดยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานในการผลิตสินค้าและโครงสร้างพื้นฐานหลากหลายประเภท ปัจจุบันและอนาคตของธุรกิจนี้มีแนวโน้ม ดังนี้:

สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ กลางปี 2568):

  1. ได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง:

    • ภาคก่อสร้าง: ยังคงเป็นตลาดหลักที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ นิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งต้องการเหล็กดัดและงานโครงสร้างเหล็กจำนวนมาก

    • ภาคอุตสาหกรรม: อุตสาหกรรมยานยนต์ (ทั้งรถยนต์สันดาปและ EV), เครื่องจักรกล, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, พลังงาน และอุตสาหกรรมอาหาร ยังคงมีความต้องการงานกลึงและงานเชื่อมเหล็กอย่างต่อเนื่อง

    • การฟื้นตัวของภาคเอกชน: แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์บางส่วนยังชะลอตัว แต่ภาคการลงทุนและการผลิตของเอกชนเริ่มทยอยฟื้นตัว ทำให้เกิดความต้องการงานเหล่านี้ในการสร้างหรือขยายโรงงานและอุปกรณ์

  2. ปัญหาต้นทุนและราคาเหล็ก:

    • ความผันผวนของราคาเหล็ก: ราคาเหล็กในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนวัตถุดิบของผู้ประกอบการ

    • การนำเข้าเหล็กราคาถูก: การนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน ที่มีราคาต่ำกว่า อาจสร้างแรงกดดันด้านราคาและยอดขายให้กับผู้ผลิตในประเทศ

  3. การแข่งขันสูงและตลาดแรงงาน:

    • การแข่งขันดุเดือด: ตลาดมีการแข่งขันที่สูง ทั้งจากโรงงานขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และโรงงานขนาดเล็กที่เน้นความยืดหยุ่นและราคา

    • ขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ: ปัญหาการขาดแคลนช่างกลึง ช่างเชื่อม และช่างเทคนิคที่มีทักษะและประสบการณ์สูงยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ ส่งผลให้ต้นทุนค่าแรงของช่างฝีมือสูงขึ้น

  4. เทคโนโลยีและมาตรฐาน:

    • ผู้ประกอบการบางส่วนเริ่มมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ เช่น เครื่องจักร CNC สำหรับงานกลึงที่แม่นยำสูง หรือเครื่องเชื่อมระบบอัตโนมัติ (Robotic Welding) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความผิดพลาด

    • มาตรฐานการผลิตและการเชื่อม เช่น ISO, AWS (American Welding Society) มีความสำคัญมากขึ้นในการรับงานโครงการขนาดใหญ่และงานที่มีความซับซ้อน

แนวโน้มในอนาคต:

  1. การปรับตัวสู่อุตสาหกรรม 4.0 และระบบอัตโนมัติ:

    • Smart Factory: โรงงานจะมุ่งสู่การเป็น Smart Factory มากขึ้น โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน IoT (Internet of Things) การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการผลิต และการนำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในงานที่ซ้ำซ้อนหรืออันตราย เช่น งานเชื่อม งานหยิบจับชิ้นส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนแรงงาน และยกระดับคุณภาพ

    • การผลิตแบบยืดหยุ่น: เน้นการผลิตที่สามารถปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว เพื่อรองรับการผลิตสินค้าล็อตเล็กๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น (Mass Customization)

  2. การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานสะอาด:

    • EV Manufacturing: การลงทุนในโรงงานผลิต EV และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องจะสร้างความต้องการงานกลึงและงานเชื่อมเหล็ก รวมถึงวัสดุอื่นๆ ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงสูง

    • Renewable Energy: การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กังหันลม และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพลังงานสะอาด จะสร้างความต้องการงานโครงสร้างเหล็กและงานเชื่อม

  3. ความแม่นยำและวัสดุขั้นสูง:

    • High-Precision Machining: ความต้องการงานกลึงที่มีความแม่นยำสูงสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น การแพทย์ (Medical Devices), อากาศยาน, และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จะเพิ่มขึ้น

    • Advanced Materials: การใช้งานวัสดุประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากเหล็ก เช่น อะลูมิเนียม สเตนเลสสตีล หรือโลหะผสมพิเศษ (Alloys) ที่ต้องการเทคนิคการกลึงและเชื่อมเฉพาะทาง จะมีบทบาทมากขึ้น

  4. การพัฒนาทักษะแรงงาน (Upskilling & Reskilling):

    • จำเป็นต้องมีการลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของช่างให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานเครื่องจักร CNC การควบคุมหุ่นยนต์เชื่อม และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ

    • การนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) มาใช้ในการฝึกอบรมช่างเชื่อม อาจช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  5. ความยั่งยืนและการรีไซเคิล:

    • การผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะจะให้ความสำคัญกับกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการนำเศษเหล็กมารีไซเคิลเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและลดพลังงานในการผลิต

สรุปโดยรวม:

ธุรกิจโรงงานการผลิตเหล็กดัด งานกลึง และงานเชื่อมเหล็กในประเทศไทยยังคงมีบทบาทสำคัญและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การขยายตัวของอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะ EV และพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพ รวมถึงการพัฒนาทักษะของบุคลากรให้รองรับเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่