“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจบริการติดตั้งกล้องวงจรปิด ได้รับการดูแล ด้านการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท วางแผนภาษีและทำบัญชีรายเดือน

สร้างความประทับใจถ่ายภาพมาให้เป็นการยืนยันในความประทับใจบริการของสำนักงานบัญชีและวางแผนภาษีแอคโปรแท็ค (AccProTax)
ขอบพระคุณมากค่ะ”

รายงานแนวโน้มธุรกิจบริการติดตั้งกล้องวงจรปิดของประเทศไทย ในปัจจุบันและอนาคต มีดังนี้:

สถานการณ์ปัจจุบัน:

• ความต้องการสูงขึ้น: ธุรกิจบริการติดตั้งกล้องวงจรปิดยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาคครัวเรือนที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยในที่พักอาศัย และภาคธุรกิจ/องค์กรที่ต้องการระบบรักษาความปลอดภัยและการบริหารจัดการที่ดีขึ้น กล้องวงจรปิดได้กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับการรักษาความปลอดภัยและการบริหารจัดการองค์กร

• การลงทุนของภาครัฐ: รัฐบาลมีแผนที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มขึ้นเพื่อลดอัตราการเกิดอาชญากรรม โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ที่มีการติดตั้งกล้องไปแล้วกว่า 62,000 ตัวในปี 2565 เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในเมือง นอกจากนี้ ยังมีแนวคิด Smart Cities ที่เน้น Smart Environment และ Smart Governance ซึ่งรวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยและสุขอนามัยสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว

• การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี IP: การนำกล้อง IP มาใช้แทนกล้องอนาล็อกกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากกล้อง IP มีข้อดีหลายประการ เช่น การเฝ้าระวังแบบเรียลไทม์, การเข้าถึงระยะไกล, การซูมแบบดิจิทัล, ต้นทุนการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐานที่ต่ำกว่า, ศักยภาพในการรวมระบบที่สูงกว่า, และการติดตั้งที่ง่ายขึ้น

• ปัญหาการบริหารจัดการข้อมูล: องค์กรต่างๆ ในประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาในการบริหารจัดการและการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เช่น ความยุ่งยากในการบริหารจัดการกล้อง IP Camera ที่มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ, การเข้าถึงข้อมูลที่ยากลำบากในองค์กรที่มีสาขาจำนวนมาก, และความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลวิดีโอที่เพิ่มขึ้นตามกฎระเบียบที่เข้มงวด

แนวโน้มในอนาคต:

• การเติบโตของตลาด AI CCTV: ตลาดกล้องวงจรปิดที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI CCTV) ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1,381.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2573 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 20.2% ระหว่างปี 2567-2573 การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากความต้องการโซลูชันความปลอดภัยขั้นสูงในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และสาธารณะ

• ฟังก์ชันอัจฉริยะ: กล้องวงจรปิดจะไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องบันทึกภาพ แต่จะมีฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น การจดจำใบหน้า (Facial Recognition), การติดตามวัตถุ (Object Tracking), การวิเคราะห์พฤติกรรม (Behavior Analysis), และการจดจำป้ายทะเบียน (Number Plate Recognition) ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัย

• การบูรณาการกับระบบอื่นๆ: ระบบกล้องวงจรปิดจะถูกบูรณาการเข้ากับระบบอื่นๆ มากขึ้น เช่น ระบบ POS (Point of Sale) เพื่อป้องกันการทุจริต, ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อจดจำลูกค้า VIP, และระบบจัดการการจราจรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพบนท้องถนน

• การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และ Video Analytics: การใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และเทคโนโลยี Video Analytics จะเป็นที่นิยมมากขึ้น เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ

• ความร่วมมือภาครัฐและเอกชน: ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและบริษัทที่พัฒนา AI จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดกล้องวงจรปิดในประเทศไทย

• ความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: การนำ AI มาใช้ในระบบกล้องวงจรปิดทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ให้บริการจะต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

• การพัฒนาบุคลากร: ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะในการติดตั้ง บำรุงรักษา และบริหารจัดการระบบกล้องวงจรปิดที่ซับซ้อนจะเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงาน

โดยสรุปภาพรวม:

ธุรกิจบริการติดตั้งกล้องวงจรปิดในประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยมี AI เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตและความสามารถในการตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต