ใช้บ้านเป็นสำนักงานต้องทำอย่างไรบ้าง
หลายๆคนในช่วงแรกเริ่มการประกอบธุรกิจมักใช้บ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นที่อยุ่จดทะเบียนเพื่อเป็นการประหยัดภาษี เราสามารถนำค่าเช่ามาหักเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อให้กำไรสุทธิน้อยลง เพื่อเสียภาษ๊นิติบุคคลดลง
ตัวอย่าง บริษัทมีกำไรก่อนหักค่าเช่า 1,000,000 บาท หากทมีค่าเช่าสำนักงานเดือนละ 25,000 บาท จำทำให้ประหยัดภาษีไป 60,000 บาทต่อปี
มีค่าเช่า ไม่มีค่าเช่า
กำไรก่อนหักค่าเช่า 1,000,000 1,000,000
หัก ค่าเช่า (300,000) –
กำไรสุทธิก่อนภาษี 700,000 1,000,000
ภาษีนิติบุคคล(20%) 140,000 200,000
วิธีการให้ทำดังนี้
- ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์
- จ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์โดยต้องหัก ณ ที่จ่าย 5% จากยอดขายค่าเช่าทุกเดือน ( กรณีจ่ายให้กับบึคคลธรรมดา)
ตัวอย่าง ค่าเช่า 25,000 บาท เจ้าของอสังการิมทรัพย์จะได้รับเงินค่าเช่าเพียง 23,750 และบริษัทจะต้องหัก ณ ที่จ่ายไว้เป็นเงิน 25,000 *5 % = 1,250 บาทในส่วนนี้จะต้องนำส่ง ภงด.53 ภายในวันที่7ของเดือนถัดไป
นอกจากนี้ ค่าไฟฟ้า น้ำปะปา สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ด้วยแม้ใบเสร็จจะไม่ได้จ่ายชื่อบริษัทแต่เป็นภ๊าซื้อต้องห้ามขอเคลม VAT ไม่ได้
แล้วฝั่งผู้ให้เช่าต้องทำอะไรบ้าง
ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.90) เนื่องจากค่าเช่าเป็นเงินได้พึ่งประเมินตามมาตรา 40(5)
ตัวอย่าง เก็ยค่าเช่าบริษัท เดือนละ 25,000 บาท สามารถคำนวณภาษ๊เงินได้บุคคลธรรมดาได้ดังนี้
รายได้ 300,000
หัก ค่าใช้จ่าย (เหมา 30% ) (900,000)
หัก ค่าลดหย่อนส่วนตัว (600,000)
สุทธิ 150,000
ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก
หากมีรายได้เพียงอย่างเดียวหากได้รับค่าเช่าไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือนผู้ให้เช่าจะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ผู้ให้เช่าสามารถขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เคยถูฏหักไว้ในแต่ละเดือน)
ยุ่งจังเลยไม่คิดได้ไหม หากไม่คิดค่าเช่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิโดนประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนี้เมื่อใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อจดทะเบียนบริษัท จพต้องเสียถาษีโรงเรือนและที่ดินด้วย
อ้างอิง : https://www.facebook.com/EasyAccountingThailand168/photos/pcb.804106070420169/804105817086861/