ลูกค้าของเรา นักธุรกิจคลีนิกทัตกรรม หมอฟัน



“ลูกค้าของเรา นักธุรกิจคลีนิกทัตกรรม หมอฟัน รอยยิ้มของลูกค้า ได้รับความพึงพอใจในการให้บริการด้วยความเป็นมืออาชีพของทีมงานสำนักงานบัญชี แอคโปรแท็ค (AccProTax)

ให้ดูแลการเปิดบริษัท และทำบัญชีรายเดือนดูแลเติบโตไปด้วยกันค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ”


รายงานแนวโน้มธุรกิจคลินิกทันตกรรม ของประเทศไทย ในปัจจุบันและอนาคต

ธุรกิจคลินิกทันตกรรมในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีพลวัตสูง โดยได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ทั้งจากด้านประชากรศาสตร์ เทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปากและความสวยงามมากขึ้น

สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ กลางปี 2568):

  1. ความตระหนักด้านสุขภาพช่องปากที่เพิ่มขึ้น:

    • ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันมากขึ้น ไม่ใช่แค่การรักษาเมื่อมีอาการป่วย แต่รวมถึงการป้องกันและการดูแลเพื่อความสวยงาม

    • การเข้าถึงข้อมูลด้านทันตกรรมผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียทำให้ผู้ป่วยมีความรู้และเข้าใจบริการต่างๆ มากขึ้น

  2. การแข่งขันที่รุนแรง:

    • จำนวนคลินิกที่เพิ่มขึ้น: มีคลินิกทันตกรรมเปิดใหม่จำนวนมาก ทั้งคลินิกเดี่ยว คลินิกเครือข่ายขนาดใหญ่ และคลินิกที่เปิดในห้างสรรพสินค้าหรือพื้นที่ชุมชน ทำให้การแข่งขันสูง

    • ราคาและคุณภาพ: ผู้ประกอบการแข่งขันกันทั้งในด้านราคา โปรโมชั่น และคุณภาพของบริการ รวมถึงความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์

    • คลินิกเฉพาะทาง: มีการเติบโตของคลินิกที่เน้นบริการเฉพาะทาง เช่น จัดฟัน, รากฟันเทียม, ทันตกรรมเพื่อความงาม, ทันตกรรมสำหรับเด็ก เพื่อสร้างจุดเด่น

  3. เทคโนโลยีและนวัตกรรม:

    • เทคโนโลยีทันตกรรมดิจิทัล: การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น เช่น เครื่อง X-ray ระบบดิจิทัล (Digital X-ray), ระบบการพิมพ์ฟันแบบดิจิทัล (Digital Impression / Intraoral Scanner), การออกแบบรอยยิ้มด้วยคอมพิวเตอร์ (Digital Smile Design – DSD), และเครื่องมือทันตกรรมเลเซอร์

    • ทันตกรรมรากฟันเทียม: การรักษาด้วยรากฟันเทียมเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับผู้ที่สูญเสียฟัน

  4. กลุ่มลูกค้าหลัก:

    • คนไทย: ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น (จัดฟัน), วัยทำงาน (ฟอกสีฟัน, รากฟันเทียม, วีเนียร์) และผู้สูงอายุ (ใส่ฟันปลอม, รากฟันเทียม)

    • ชาวต่างชาติ (Medical Tourism): ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งรวมถึงบริการทันตกรรมที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผลสำหรับชาวต่างชาติ

  5. ความท้าทายด้านบุคลากร:

    • การขาดแคลนทันตแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในบางสาขา หรือการกระจุกตัวของทันตแพทย์ในเมืองใหญ่ อาจเป็นข้อจำกัดในการขยายบริการ

แนวโน้มในอนาคต:

  1. ทันตกรรมดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Full Digital Dentistry):

    • AI และ Machine Learning: จะถูกนำมาใช้ในการช่วยวิเคราะห์ภาพรังสี, วินิจฉัยโรค, วางแผนการรักษา (เช่น การจัดฟันใส), และแม้กระทั่งการสร้างแบบจำลองฟันที่มีความแม่นยำสูง

    • 3D Printing: การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติในการผลิตชิ้นงานทางทันตกรรม เช่น ครอบฟัน, สะพานฟัน, หรือโมเดลฟันสำหรับวางแผนการรักษา จะเป็นมาตรฐานมากขึ้น

    • Tele-dentistry: การให้คำปรึกษาเบื้องต้น การวินิจฉัย หรือการติดตามผลการรักษาผ่านวิดีโอคอล จะมีความแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลหรือมีข้อจำกัดในการเดินทาง

  2. ทันตกรรมเพื่อความงามแบบองค์รวม (Holistic Aesthetic Dentistry):

    • ผู้ป่วยจะมองหาการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ด้านความสวยงามที่ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ใช่แค่การจัดฟันหรือฟอกสีฟัน แต่รวมถึงการออกแบบรอยยิ้มให้เข้ากับใบหน้า การแก้ไขปัญหารูปหน้าด้วยทันตกรรม และการดูแลสุขภาพช่องปากให้สมบูรณ์แบบ

    • Wellness Integration: การบูรณาการทันตกรรมเข้ากับบริการด้านสุขภาพและเวลเนสอื่นๆ เช่น การดูแลสุขภาพโดยรวมที่ส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก

  3. ทันตกรรมป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ (Preventive & Proactive Dentistry):

    • การเน้นการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ การทำความสะอาดฟัน การเคลือบฟลูออไรด์ และการให้ความรู้ด้านสุขอนามัยช่องปาก จะมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อลดการเกิดโรค

    • การติดตามผู้ป่วยเชิงรุก: คลินิกจะพัฒนาระบบการติดตามผู้ป่วยและการแจ้งเตือนการนัดหมายที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาตรวจตามกำหนด

  4. ความยั่งยืนและสุขอนามัย:

    • การใช้วัสดุและกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในคลินิกทันตกรรม

    • การให้ความสำคัญกับมาตรฐานสุขอนามัยและมาตรการควบคุมการติดเชื้ออย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วย

  5. สังคมผู้สูงอายุและความต้องการเฉพาะทาง:

    • เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว ความต้องการบริการทันตกรรมสำหรับผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น รากฟันเทียม, ฟันปลอม, การดูแลสุขภาพช่องปากที่ซับซ้อนขึ้น

  6. ความร่วมมือและการสร้างเครือข่าย:

    • คลินิกทันตกรรมอาจมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับคลินิกเฉพาะทางอื่นๆ หรือแม้แต่โรงพยาบาล เพื่อส่งต่อผู้ป่วยและให้บริการที่ครอบคลุม

โดยสรุปภาพรวม:

ธุรกิจคลินิกทันตกรรมในประเทศไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคต โดยได้รับแรงหนุนจากความตระหนักด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นและการเข้ามาของเทคโนโลยี ผู้ประกอบการที่สามารถนำนวัตกรรมดิจิทัลมาปรับใช้ พัฒนาบริการเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย (โดยเฉพาะทันตกรรมเพื่อความงามและรากฟันเทียม) และให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการและมาตรฐานสุขอนามัย จะเป็นผู้ที่สามารถรักษาความได้เปรียบและเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้

บริษัทแอคโปรแท็ค จำกัด รับทำบัญชี
เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ

เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบัญชีและเชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษีอากรอย่างสูงรับประกันธุรกิจของท่านจะได้การดูแล และประหยัดการเสียภาษีสูงสุด ยินดีให้คำปรึกษาสอบถามบริการ

แชร์บทความนี้ :
ค้นหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำปรึกษา

ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อเรายินดีให้บริการคุณอย่างเต็มที่