ขั้นตอนการยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ควรรู้

ขั้นตอนการยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ควรรู้

อย่าปล่อยให้ภาษีโรงเรือนและที่ดินเป็นเรื่องไกลตัว เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบครองอยู่อาจเข้าข่ายต้องยื่นภาษีประเภทนี้ด้วยก็ได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียค่าปรับสูงสุดถึงร้อยละ 10 ของภาษีที่ต้องจ่าย หรือโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังถึง 10 ปีโดยไม่รู้ตัว เจ้าของอสังหาริมทรัพย์จึงควรทำความเข้าใจให้ดีว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินคืออะไร จ่ายเมื่อไร และหากมีอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข จะมีขั้นตอนการชำระภาษีอย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้พลาดจนต้องถูกหน่วยงานของรัฐทวงถามย้อนหลัง

รู้จักกับภาษีโรงเรือนและที่ดิน

ภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภาษาอังกฤษคือ Building and Land Tax) หมายถึงภาษีที่เรียกเก็บจากอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่า เปิดกิจการ และ/หรือให้บริการจากหอพัก โรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล และสถานประกอบการต่าง ๆ โดยเจ้าของทรัพย์สินต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินเมื่อใช้ประโยชน์จากโรงเรือนหรือที่ดินนั้น ยกเว้นบ้านที่อยู่อาศัยเองและทรัพย์สินที่ถูกยกเว้นตามกฎหมาย

ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ไหนและเมื่อไร

ภาษีโรงเรือนและที่ดินเป็นภาษีท้องถิ่นที่ต้องชำระให้กับสำนักงานเขตหรือเทศบาลที่โรงเรือนหรือที่ดินนั้นตั้งอยู่ โดยการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินนั้นเป็นแบบรายปี ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถยื่นภาษีได้ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่มีการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นในปีก่อนหน้า เช่น มีบ้านปล่อยเช่าตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 รวม 3 เดือน เจ้าของทรัพย์สินก็ต้องยื่นภาษีโรงเรือนในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562

ปัจจุบันหน่วยงานส่วนท้องถิ่นบางแห่งมีบริการที่ช่วยให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดินได้อย่างสะดวกสบาย เช่น สำนักงานเขตบางแห่งในกรุงเทพฯ มีบริการยื่นแบบผ่านไปรษณีย์และชำระค่าภาษีผ่านตู้เอทีเอ็มหรือแอปพลิเคชันของธนาคารได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานเขต แต่ทั้งนี้โปรดตรวจสอบหน่วยงานในพื้นที่ที่ต้องชำระภาษีอีกครั้งเนื่องจากบริการอาจแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

การคำนวณภาษีโรงเรือนและที่ดิน

อัตราภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ต้องจ่ายในปัจจุบันคือร้อยละ 12.5 ของค่ารายปี ซึ่งค่ารายปีนั้นมาจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ โดยมีหลักเกณฑ์และตัวอย่างการคำนวณดังนี้

กรณีให้เช่าโรงเรือนหรือที่ดิน

หากทรัพย์สินนั้นมีค่าเช่า เช่น บ้านเช่าหรือหอพัก ให้ใช้สูตร
(ค่าเช่าต่อเดือน x จำนวนเดือนที่ประกอบการ) x ร้อยละ 12.5 = ภาษีที่ต้องจ่าย
ตัวอย่าง บ้านปล่อยเช่าในราคา 5,000 บาท/เดือน โดยปล่อยเช่ามาแล้ว 9 เดือน จะได้ (5,000 x 9) x ร้อยละ 12.5 = ภาษีที่ต้องเสีย 5,625 บาท

กรณีโรงเรือนหรือที่ดินที่ใช้ประโยชน์อื่น ๆ

หากทรัพย์สินนั้นเป็นสถานประกอบการ หรือนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่สามารถประเมินค่ารายปีได้จากค่าเช่า ให้ใช้สูตร
((พื้นที่หน่วยตารางเมตร x อัตราทำเล) x จำนวนเดือนที่ประกอบการ) x ร้อยละ 12.5 = ภาษีที่ต้องจ่าย
โดยอัตราทำเลนั้นเกิดจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่ละเขตพื้นที่จะแตกต่างกัน
ตัวอย่าง ร้านค้าขนาด 150 ตารางเมตร เปิดกิจการมาตลอดทั้งปี และสมมุติว่าเจ้าหน้าที่ประเมินอัตราทำเลไว้ตารางเมตรละ 60 บาท จะได้ ((150 x 60) x 12) x ร้อยละ 12.5 = ภาษีที่ต้องเสีย 13,500 บาท


ขั้นตอนการเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน

  1. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องยื่นแบบแจ้งรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด. 2) ให้สำนักงานเขตหรือเทศบาลที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ พร้อมเอกสารที่ใช้ประกอบการเสียภาษีดังนี้
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาโฉนดที่ดินที่ปลูกโรงเรือน
  • สำเนาสัญญาซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือสำเนาสัญญาการเช่า
  • เอกสารการจดทะเบียนอื่น ๆ ที่แสดงถึงการใช้ประโยชน์ต่อสิ่งปลูกสร้าง เช่น ทะเบียนพาณิชย์ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือใบอนุญาตใช้สถานที่ขายอาหาร เป็นต้น
  • ใบเสร็จรับเงินชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินปีที่แล้ว (ถ้ามี)
  1. เจ้าหน้าที่ทำการตรวจพิจารณาแบบที่ยื่นมาและอาจเรียกให้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้าต้องการ) โดยเจ้าหน้าที่จะกำหนดประเภททรัพย์สินและค่ารายปีของทรัพย์สินนั้น เพื่อประเมินภาษีที่ต้องให้ผู้ยื่นชำระ
  2. หลังขั้นตอนการประเมินเสร็จสิ้นผู้ยื่นภาษีจะได้รับแบบแจ้งรายการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด. 8) และต้องชำระภาษีตามที่แจ้งภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับแบบ ภ.ร.ด. 8
  3. หากผู้ยื่นภาษีไม่พอใจกับจำนวนเงินที่ต้องชำระสามารถยื่นคำร้องขออุธรณ์ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการประเมินภาษีใหม่ได้ ซึ่งต้องกระทำภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับแบบ ภ.ร.ด. 8
  4. เมื่อชำระภาษีเสร็จสิ้นผู้ยื่นจะได้ใบเสร็จรับเงินซึ่งนำไปใช้ประกอบการยื่นแบบ ภ.ร.ด. 2 ในปีต่อไป

โทษปรับของการไม่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน

  1. ผู้ที่ละเลยไม่ยื่นแบบ ภ.ร.ด. 2ตามเวลาที่กำหนดจะมีโทษปรับ 200 บาท และถูกเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินย้อนหลังตามจำนวนปีที่ละเลยไม่เกิน 10 ปี
  2. ผู้ที่ยื่นแบบ ภ.ร.ด. 2 เป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจะมีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินย้อนหลังตามจำนวนปีที่เป็นเท็จไม่เกิน 5 ปี
  3. ผู้ที่ชำระภาษีล่าช้าเกินกำหน30 วันนับจากวันที่ได้รับแบบ ภ.ร.ด. 8 ต้องเสียภาษีเพิ่มดังนี้
  • ล่าช้าไม่เกิน 1 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 2.5 ของภาษีที่ค้างชำระ
  • ลาช้าเกิน 1 เดือนแต่ไม่เกิน 2 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 5 ของภาษีที่ค้างชำระ
  • ล่าช้าเกิน 2 เดือนแต่ไม่เกิน 3 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 7.5 ของภาษีที่ค้างชำระ
  • ล่าช้าเกิน 3 เดือนแต่ไม่เกิน 4 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 10 ของภาษีที่ค้างชำระ
  • ล่าช้าเกิน 4 เดือนขึ้นไป ให้อายัดทรัพย์สินหรือขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องออกหมายยึด
  • ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนการยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดินรวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ ที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์และกิจการต่าง ๆ ควรทราบ เพื่อให้เตรียมตัวจ่ายภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ต้องโทษปรับหรือถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังซึ่งภาษีเหล่านี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นที่เจ้าของทรัพย์สินกำลังใช้ประโยชน์ให้ดียิ่งขึ้น และเมื่อใดก็ตามที่หาซื้อสังหาริมทรัพย์ อาทิ บ้าน คอนโด และที่ดิ ผู้ซื้อก็สามารถตระหนักถึงภาษีโรงเรือนและที่ดินที่จะต้องจ่ายได้ในทันที

อ้างอิง : ขั้นตอนการยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ควรรู้| DDproperty.com

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart