บริการเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ที่ปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- Pre-Audit ก่อนผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทเข้าตรวจสอบ
- วางระบบบัญชี และวางระบบการควบคุมภายใน
- จัดทำคู่มือระบบงาน คู่มือการทำงาน
- จัดการระบบการควบคุมภายใน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- จัดการระบบบัญชีและหลักการบัญชีให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ
- ช่วยในการจัดทำงบการเงินและให้คำปรึกษาการจัดทำรายละเอียดประกอบงบการเงินเพื่อ ให้ผู้สอบบัญชีฯได้ตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ทันเวลาและลดประเด็นจากการตรวจสอบ
- ดโครงสร้างบริษัทเพื่อเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯหรือเพื่อรองรับตามความต้องการ ของผู้บริหาร หรือด้วยวัตถุประสงค์อื่นพร้อมทั้งแนะนำ จัดหาที่ปรึกษาการเงิน(FA) ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต(SEC license)
- การบริการประสานงานกับ ที่ปรึกษาการเงิน(FA),ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต(SEC license), นักกฎหมาย,ผู้ประเมินต่างๆ ฯลฯ
- จัดหาแหล่งเงินทุน แนะนำจัดหานักลงทุนเงินกู้ต่างๆทั้งจากบุคคลและสถาบันการเงิน
การที่บริษัทจะสามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชน (Initial public offering: IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ บริษัทต้องมีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน และต้องดำเนินการตามกฎหมาย ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสรุปเรื่องสำคัญที่บริษัทต้องเตรียมความพร้อมก่อนเสนอขายหุ้นต่อประชาชนและเข้าจดทะเบียน ดังนี้
เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของกรรมการ
- กรรมการ ผู้บริหารเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนตาม พรบ.หลักทรัพย์ฯ
- โครงสร้างกรรมการมีการตรวจสอบ ถ่วงดุล
- คุณสมบัติและการเลือกกรรมการที่มีทักษะ ประสบการณ์ และเวลาที่จะให้แก่บริษัทได้
จัดโครงสร้างธุรกิจ
- จัดโครงสร้างธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อลดโอกาสที่อาจจะเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- การดำเนินงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ ขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- ดูความเหมาะสมของรายการกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
เตรียมระบบควบคุมภายใน
- ระบบการควบคุมภายในที่ดี (Check and Balance)
- การมอบอำนาจเพื่อดำเนินการต่างๆ
เตรียมระบบควบคุมภายใน
- เตรียมความพร้อมงบการเงิน จัดทำตามมาตรฐานบัญชี
- เตรียมความพร้อมให้กับสมุห์บัญชีและ CFO
ให้ความร่วมมือกับ FA และ Auditor
- จัดให้ FA ทำงานร่วมกับ Auditor
- Pre-consult ประเด็นต่างๆ ก่อนยื่น IPO
การเตรียมตัวและระยะเวลาเตรียมการ
ระยะเวลาเตรียมการ 18 – 24 เดือน ก่อนยื่นคำขอ
- ศึกษาข้อมูลและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด เกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน เกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการรับหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียน
- คัดเลือก ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อช่วยเหลือในด้านการให้คำปรึกษาและการเตรียมการ
- ให้ข้อมูลรายละเอียดแก่ที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- วางแผนการจัดเตรียมข้อมูลและตารางเวลาดำเนินการ
- จัดโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท และกลุ่มบริษัทให้ปราศจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเตรียมการให้มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี
- แต่งตั้ง ผู้สอบบัญชี ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อจัดเตรียมงบการเงินและข้อมูลทางบัญชีในรูปแบบที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
- แต่งตั้ง ผู้ตรวจสอบภายใน เพื่อประเมิน ปรับปรุง ระบบควบคุมภายใน
ระยะเวลาเตรียมการ 12 เดือน ก่อนยื่นคำขอ
- แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบ
- ซ้อมจัดทำงบการเงินอย่างน้อย 2 ไตรมาส ให้แน่ใจว่าทำได้ทันตามกำหนดเวลา
ระยะเวลาเตรียมการ 6 เดือน ก่อนยื่นคำขอ
- จัดเตรียมเอกสารสำหรับยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต./ ตลาดหลักทรัพย์ฯ
- นัดหารือประเด็นที่สำคัญ (Pre-consult) กับสำนักงาน ก.ล.ต./ ตลาดหลักทรัพย์ฯ
- วางแผนและศึกษาการกำหนดราคาและจัดจำหน่ายหุ้น
- จัดเตรียมแผนประชาสัมพันธ์
ระยะเวลาเตรียมการ 1-2 เดือน ก่อนยื่นคำขอ
- การแปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
- จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- แต่งตั้ง นายทะเบียนหลักทรัพย์
- ร่วมวางแผนกำหนดการที่สำคัญ เช่น การตรวจ Working paper ของ FA / Auditor การเยี่ยมชมกิจการและตอบข้อซักถามของสำนักงาน ก.ล.ต.
- จัดเตรียมเอกสารสำหรับยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ / สำนักงาน ก.ล.ต.
ยื่นคำขอ
- ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ / ยื่นคำขอเสนอขายหุ้น IPO ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
- เตรียมการเรื่องการเยี่ยมชมกิจการ และตอบข้อซักถามของตลาดหลักทรัพย์ฯ และ สำนักงาน ก.ล.ต.
- เสนอขายหุ้นแก่ประชาชน
- เริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
หมายเหตุ :
ระยะเวลาเตรียมการดังกล่าวเป็นระยะเวลาโดยประมาณภายใต้สมมติฐานว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนอยู่แล้ว โดยอาจมีเรื่องที่ต้องดำเนินการหรือปรับปรุงแก้ไขไม่มากนัก